ประวัติ หลวงพ่อรัตน์ วัดป่าหวาย
ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
หลวงพ่อรัตน์ อตฺตสาโร
สืบทอดพุทธาคมสายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
โดยได้ศึกษาร่ำเรียนจากหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม หลวงพ่อรัตน์เป็นศิษย์ใกล้ชิด
หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งรูปสุดท้าย
ได้รับมรดกจากหลวงปู่ทาบ ทั้งวิชาอาคม,สีผึ้งเขียว
และกระดานชนวนอายุนับร้อยปี
อีกทั้งยังเคยติดตามหลวงปู่ทาบ ไปวัดหนองกระบอก
เพื่อแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงพ่อลัด
จึงได้เคล็ดวิชาการสร้างเสกแพะ ตำราหลวงปู่อ่ำ
จากหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอกมาอีกด้วย
หลวงพ่อรัตน์จึงนับได้ว่า เป็นผู้รอบรู้ศาสตร์วิชา
สายระยองอย่างครบถ้วน
หลวงพ่อรัตน์ อตฺตสาโร
มีนามเดิมว่า รัตน์ นามสกุล บุญสม
เกิดที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484
บิดาชื่อ สด มารดาชื่อ แช่ม มีพี่น้อง 8 คน
หลวงพ่อรัตน์ เป็นคนที่ 2 ครอบครัวมีอาชีพ
ทำนา,ทำไร่ เป็นเกษตรกร
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ ได้เข้าศึกษาที่วัดใหม่กระบกขึ้นผึ้ง
ซึ่งหลวงพ่อรัตน์ สนใจเรียนด้านคงกระพัน
และ หนังเหนียว มากกว่าวิชาเรียนปกติ
อีกทั้งยังชอบทดลองวิชาที่เรียนมา ว่าได้ผลจริงไหม
เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ก็ต้องออกมาช่วยครอบครัวทำงาน
พอโตมา ก็ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารแต่ไม่ถูกทหาร
เมื่ออายุครบ 20 ปี ก็ได้อุปสมบทที่วัดใหม่กระบกขึ้นผึ้ง
โดยมีหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก เป็นพระอุปัชฌาย์
และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น เนื่องจากเป็นวัดใกล้บ้านของท่าน
ได้ศึกษาวิชาจากหลวงปู่ทาบ ซึ่งท่านก็เมตาสอนให้
แบบเต็มที่ ทั้งวิชา ทำน้ำมนต์,การหุงสีผึ้งเขียว
วิชาของหลวงปู่ทาบนั้นจะหนักไปทางด้านเมตตา
จากนั้นหลวงพ่อรัตน์ ก็ได้สึกออกมามีครอบครัว
มีบุตร 3 คน แล้วจึงย้ายครอบครัวมาประกอบอาชีพ
ทำนา,ทำไร่อยู่แถวบ้านป่าหวาย
สมัยก่อนแถบนี้ไม่มีวัด ไม่มีโรงเรียน
พอจะทำบุญก็ต้องออกไปทำที่วัดหนองกรับ
จนชาวบ้านร่วมใจกันสร้างโรงเรียน ในบ้านป่าหวาย
และสร้างวัดขึ้นด้วย แต่ก็ติดขัด ไม่มีพระอยู่ประจำ
ทุกๆปี ต้องไปนิมนต์พระจากวัดอื่นมาจำพรรษาที่นี่
ต่อมา ปี พ.ศ. 2530
หลวงพ่อรัตน์ก็ช่วย หาพระมาอยู่ประจำที่วัดป่าหวายนี้
ไปๆมาๆ เลยได้มาบวชเอง
และได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหวายนี้
และได้รับการแต่งตั้ง จากเจ้าคณะอำเภอ
ให้เป็นผู้ดูแลวัดป่าหวาย
ในช่วงปี 2530-2533 หลวงพ่อรัตน์ได้เริ่มเรียนวิชา
คาถาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อสาคร อย่างจริงจัง
และเทียวมา ต่อวิชาเพิ่มเติมอยู่เสมอ
เนื่องจากวัดป่าหวาย และวัดหนองกรับนั้น
ห่างกันไม่กี่กิโลเมตร สมัยที่อยู่วัดหนองกรับ ยังได้มีโอกาสศึกษาวิชา กับหลวงพ่อทอง
ศิษย์หลวงพ่อวงษ์วัดบ้านค่าย ผู้เป็นศิษย์เอก
ของหลวงปู่สังข์เฒ่า วัดเก๋งจีนอีกด้วย
หลวงพ่อสาคร ท่านเมตตาสอนวิชา
ให้หลวงพ่อรัตน์อย่างไม่ปิดบัง
วิชาสร้างพระเครื่อง, เคล็ดวิชาบวงสรวงเสกแพะ
วิชาทำน้ำมนต์,เจิมบ้าน,เจิมรถ
และยังได้รับมอบผงพรายกุมาร ไว้เพื่อสร้างพระอีกด้วย
หลวงพ่อรัตน์ท่าน เริ่มสร้างวัดอย่างจริงจัง
เมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยได้รับความช่วยเหลือ
จากหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
โดยได้สร้างเมรุเผาศพก่อน เพราะสมัยนั้น
เวลามีคนตาย ก็ต้องนำไปเผาที่วัดหนองกรับ
และมาเริ่มสร้างอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ. 2537
ได้ยกช่อฟ้าในปี พ.ศ. 2542
ต่อด้วยการสร้างศาลา และกุฏิสงฆ์ตามลำดับ
หลวงพ่อรัตน์ วัดป่าหวาย นับว่าเป็นพระนักพัฒนา
อีกทั้งยังรอบรู้เวทย์วิทยาคม ในสายระยอง
อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ จึงไม่แปลกที่วัตถุมงคล
ที่ท่านสร้าง และเสกไว้นั้น
ทั้ง พระขุนแผนรุ่นแรก,สมเด็จนักเลงโต,
แพะเขาควายฟ้าผ่า,ตะกรุดโทนล้วนได้รับความนิยม
และเกิดประสบการณ์มากมาย
กับผู้ที่นำไปใช้จนใครที่มี ก็ต่างหวงแหน
ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวระยอง
อย่าลืมไปกราบท่านนะครับ เข้าหาง่ายเมตาสูง
เป็นช้างเผือกแห่งเมืองระยองอีกรูปนึง
ที่กราบไหว้ได้สนิทใจครับ