เดชอำนาจ... สั่งสอนซะหน่อย"
ประสบการณ์เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชายท่านหนึ่ง (ขออนุญาตสงวนนาม) ที่ได้หมั่นสวดพระคาถาบูชาพระอุปคุตอย่างสม่ำเสมอ
ชายท่านนี้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งโดยมีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบโครงการงานก่อสร้างของบริษัทต่างๆ... การรับหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบนี้เป็นหน้าที่ที่ค่อนข้างจะอันตรายเพราะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าถ้าหากผู้ตรวจสอบตรวจพบว่าโครงการก่อสร้างใดไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้ตามสเป็คที่ได้กำหนดไว้ผู้ตรวจสอบก็จะสั่งให้รื้อถอนหรือแก้ไขทันที
ผู้รับเหมาบางรายก็ดื้อดึงไม่ยอมรื้อและมีการติดสินบนให้แก่ผู้ตรวจสอบเพื่อหวังให้ผ่านการตรวจสอบ แต่สำหรับชายท่านนี้แล้วเขาเป็นคนตรงไปตรงมา ผิดก็บอกว่าผิดถูกก็บอกว่าถูก เขาไม่ยอมทรยศบริษัทของเขาเด็ดขาดและเนื่องจากการเป็นคนตรงไปตรงมานี่แหละ ทำให้ผู้รับเหมาบางรายถึงกับขู่อาฆาตปองร้ายถึงขั้นจะเอาชีวิตกันเลยก็มี แต่เขาก็รอดพ้นมาได้ก็เพราะบารมีของพระกริ่งอุปคุตและบารมีของหลวงปู่ญาท่านสวนที่เขาหมั่นกราบไหว้บูชาและระลึกถึงท่านอยู่เสมอมิได้ขาด
เรื่องมีอยู่ว่าเขาได้ไปตรวจโครงการงานก่อสร้างโครงการหนึ่ง ปรากฏว่าผู้รับเหมาทำผิดสเป็คเขาจึงได้สั่งให้รื้อ ฝ่ายผู้รับเหมาทำท่าไม่พอใจบ่ายเบี่ยงไม่อยากจะรื้อแต่เขาก็ต้องสั่งให้รื้อทำใหม่เพราะถ้าไม่รื้อบริษัทก็จะเสียหาย สรุปคือผู้รับเหมาต้องรื้อทำใหม่แบบไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะถ้าไม่ทำบริษัทก็จะไม่จ่ายเงินให้ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับผู้รับเหมาเป็นอย่างมาก
หลังจากวันนั้นมาเขาจึงค่อนข้างระวังตัวเป็นอย่างมากและก็ยังอาราธนาพระกริ่งอุปคุตและล็อกเกตของหลวงปู่ติดตัวตลอดเวลา
อยู่มาวันหนึ่งในช่วงเวลาตอนเย็น หลังจากเลิกงานแล้วและเขากำลังจะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งแถวๆหน้าบริษัทก็จะมีร้านค้าเปิดขายของอยู่มากมายหลายร้านเพราะบริษัทที่เขาทำงานอยู่มีพนักงานหลายพันคน ในขณะที่เขากำลังเดินผ่านร้านค้าอยู่นั้น พลันก็ได้ยินเสียงคนร้องทักดังมาจากร้านค้า "เพ่... เพ่" เขาจึงหันไปดูเห็นชายฉกรรจ์ 5-6 คนกำลังตั้งวงเหล้ากันอยู่ พูดจาเสียงดังเหมือนกำลังจะได้ที่ ปรากฏว่าชายกลุ่มนั้นคือกลุ่มของผู้รับเหมาที่เขาสั่งให้รื้องานนั่นเอง
1 ในผู้ชายกลุ่มนั้นเรียกให้เขาเข้าไปร่วมวงด้วย "เพ่... เพ่... จะรีบไปไหน... มานั่งกินเหล้าด้วยกันก่อนสิเพ่" ขณะนั้นเขามีความรู้สึกว่าบรรยากาศไม่ชวนให้นั่งเลย เพราะดูสีหน้าแต่ละคนดูเหมือนจะไม่จริงใจเอาเสียเลย เขารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าอันตรายกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเขา ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาและคะยั้นคะยอให้เขาไปนั่งที่โต๊ะก่อน ชายคนนั้นบอกว่า "ถ้าไม่เข้าไปนั่งถือว่าไม่ให้เกียรติกัน" เขาจึงจำใจเข้าไปนั่ง ทำเป็นใจดีสู้เสือ ถึงแม้ปากจะเชื้อเชิญแต่สายตาของแต่ละคนกลับดูไม่เป็นมิตร โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าผู้รับเหมาที่เขาเคยสั่งรื้องานเมื่อเดือนก่อน
ขณะนั้นเขาคิดว่าเขาคงตกที่นั่งลำบากแล้วหล่ะ ดูสถานกรารณ์แล้วคงจะไม่รอดแน่ พวกมันคงเล่นงานเขาแน่ จิตของเขาตอนนั้นนึกถึงพระกริ่งอุปคุตและหลวงปู่ญาท่านสวนทันที ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งได้อีกแล้วในขณะนั้นนอกจากพระกริ่งอุปคุตของหลวงปู่ญาท่านสวนที่เขาอาราธนาห้อยคออยู่ทุกวัน
เขาคิดในใจว่าจะแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างไรถึงจะออกจากวงเหล้าของพวกมันได้ และแล้วเขาก็นึกออก เขาจึงหยิบบุหรี่ออกมาสูบ จากนั้นเขาก็กำหนดจิตภาวนาพระคาถาพระอุปคุตทั้ง 2 บทและพระคาถาแก้วสารพัดนึก ขอให้พวกมันกลับใจไม่ทำอันตรายเขาแล้วเขาก็พ่นควันบุหรี่ออกมาให้มันฟุ้งกะระจายไปทั่ววงเหล้า เขาทำอย่างนั้นถึง 3 ครั้ง... ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย เขาได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า "ถ้าหากคนพวกนี้โดยเฉพาะไอ้คนที่เป็นหัวหน้า ถ้ามันคิดปองร้ายผมจริงๆ ลูกก็ขออำนาจแห่งบารมีของพระกริ่งอุปคุตและบารมีแห่งหลวงปู่ญาท่านสวนที่ศักดิ์สิทธิ์จงแสดงปาฏิหารย์ถีบให้มันตกเก้าอี้ให้เห็นแจ้งเป็นประจักษ์แก่สายตาด้วยเถิด แต่ถ้าหากมันไม่ได้คิดปองร้ายลูกก็ขออย่าให้มันเป็นอะไรเลย"
เมื่อจบคำอธิษฐานเขาจึงพ่นควันบุหรี่ออกไปที่กลางวงเหล้าเป็นครั้งาสุดท้ายและแล้วเขาก็ถึงกลับตกตะลึงเพราะไอ้คนที่เป็นหัวหน้าผู้รับเหมาร้องเสียงหลง "โอ๊ย" ออกมา ร่างของมันกระเด็นตกจากเก้าอี้ไปนั่งตูดจ้ำเบ้าเหมือนโดนถีบเข้าอย่างจัง ทุกคนถึงกับตะลึงอึ้งมองหน้ากันแบบเหรอหราแบบงงๆ เพราะจู่ๆก็เห็นลูกพี่ร่วงลงไปกองกับพื้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ลูกพี่มันรีบลุกขึ้นมาปัดตูดด้วยอาการหน้าแตกและไม่สบอารมณ์ ทำเป็นโวยวายเพื่อกลบเกลื่อน พร้อมกับพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ "วันนี้กูฤกษ์ไม่ดีโว้ย... เลิกๆๆ" หลังจากนั้นวงก็เลยแตกแยกกันไป เขาจึงได้โอกาสชิ่งหนีกลับบ้านและนึกในใจว่าพระกริ่งอุปคุตและหลวงปู่ญาท่านสวนท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ช่วยให้เขารอดพ้นอันตรายมาได้ด้วยเหตุการณ์อันเหลือเชื่อจริงๆ
หลายเดือนต่อมามีชาย 2 คนมาหาเขาและถามเขาว่าจำพวกเขาได้มั้ย ที่เคยทำงานเป็นลูกน้องของผู้รับเหมารายที่เขาเคยสั่งรื้องาน เขาพยักหน้าและบอกว่าจำได้และจึงถามกลับไปว่ามีอะไรเหรอ ชาย 2 คนนั้นบอกว่า "ผมจะมาขอสารภาพและจะมาขอโทษพี่ที่วันนั้นผมคิดไม่ดีกับพี่" เขาจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถามกลับไปว่า "วันไหนแล้วคิดไม่ดียังงัย" ชาย 2 คนนั้นจึงเล่าให้เขาฟังว่า "ก็วันที่พวกผมเรียกพี่กินเหล้าเมื่อหลายเดือนก่อน พี่ยังจำได้มั้ย" เขาบอกว่า "จำได้" ชาย 2 คนนั้นเล่าต่อไปว่า "พี่รู้มั้ย... ว่าวันนั้นลูกพี่ผมและพวกผมวางแผนว่าจะเก็บพี่... แต่ลูกพี่ผมกระเด็นตกเก้าอี้อย่างไม่ทราบสาเหตุเสียก่อนแล้วลูกพี่ผมก็เปลี่ยนใจอย่างกระทันหัน พวกผมก็เลยงง หลังจากวันนั้นลูกพี่ผมก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย แต่พวกผมกลับไม่สบายใจจึงอยากจะมาเคลียร์ขอสารภาพผิดและขอโทษพี่ เขาจึงบอกไปว่า "ไม่เป็นไร... ไม่ติดใจ... เรื่องมันผ่านมาแล้ว"
เขาได้ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพระกริ่งอุปคุตและหลวงปู่ญาท่านสวนอีกครั้งที่ทำให้บังเกิดเดชและมีอำนาจเป็นที่เกรงกลัวแก่ศัตรูผู้คิดร้ายให้มาศิโรราบกลับจิตกลับใจกลายเป็นมิตร
พระคาถาแก้วสารพัดนึก
นะอุนะอะนะมะ มะนะมะอุมะอะ อะนะอะมะอะอุ อุมะอุนะอุอะ