ประวัติวัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
วัดจุฬามณี
ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
วัดจุฬามณี ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๙๓ หมู่ ๙ ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ติดถนนสายสมุทรสงคราม-บางแพ ด้านหน้าติดกับคลองอัมพวา เชื่อมติดต่อกับคลองบางผีหลอก ห่างจากตัวจังหวัดสมุทรสงครามราวประมาณ ๗ กิโลเมตรเศษ และห่างจากที่ตั้งที่ว่าการอำเภออัมพวาประมาณ ๒ กิโลเมตร ด้านทิศเหนือติดกับถนนสายสมุทรสงคราม-บางแพ ทิศใต้ติดกับคลองอัมพวา
วัดจุฬามณี เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มีความสำคัญในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ ราชวงศ์จักรี ฝ่ายราชนิกุล(ตระกูลบางช้าง) วัดจุฬามณี เดิมมีชื่อเรียกว่า “วัดแม่เจ้าทิพย์”
ตามประวัติสืบมาได้ว่า วัดนี้สร้างมาแต่รัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง มีกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตามประวัติว่าท่านท้าวแก้วผลึก(น้อย) ธิดาคนหนึ่งของท่านพลาย ซึ่งเป็นนายตลาดบางช้าง มีหน้าที่เก็บภาษีอากรขนอนตลาด จึงมีทรัพย์และรายได้มากชั้นเศรษฐีผู้หนึ่ง จึงได้สร้างวัดจุฬามณีขึ้นมาใหม่ วัดจุฬามณีได้รับความอุปถัมป์ทำนุบำรุงจากมหาอุบาสก และมหาอุบาสิกาสำคัญ ซึ่งต่อมาภายหลังเป็นต้นราชวงศ์จักรี โดยภูมิประเทศแห่งนี้เป็นที่ประสูติของเจ้าผู้ครองประเทศไทยสืบต่อกันมา
ปประวัติบ่งชัดว่า เป็นต้นราชตระกูลบางช้าง
ข้อสำคัญก็คือ วงศ์ตระกูลราชนิกุลบางช้างนี้ มีต้นกำเนิดไปจากตำบลบางช้างนี้เอง นิวาสถานเดิมของท่านเศรษฐีทอง เศรษฐีสั้น เป็นพระชนกชนนีของ สมเด็จพระอัมรินทรามาตย์นั้นตั้งอยู่หลังวัดจุฬามณี ซึ่งเดินไปราวสัก ๕ เส้น(หรือราวประมาณ ๕ นาที) บริเวณนิวาสถานนั้นมีต้นจันทน์ใหญ่อยู่ ๓ ต้น แต่ละต้นวัดโดยรอบประมาณ ๒ คนโอบ ระหว่างต้นห่างกันประมาณ ๔ วา กล่าวกันว่าปลูกอยู่ข้างบ้านของท่านเศรษฐีทั้งสอง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าต้นจันทน์ได้ทิ้งซากล้มขอนไว้จนผุ ซากนี้ยังคงทิ้งขอนอยู่จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๑๐
ต่อมาได้ทราบว่าท่านศึกษาธิการอำเภออัมพวาในสมัยนั้น ท่านสนใจต้องการทราบประวัติและหลักฐาน ทั้งทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ อันเป็นนิวาสถานเดิมของต้นราชตระกูลแห่งราชวงศ์จักรี จึงได้เดินทางไปสำรวจ แต่ตัวผู้เช่าสวนหรือเจ้าของที่ดินรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เอาไฟเผาซากตอที่ทิ้งซากล้มขอนนั้นไปจนหมดสิ้นไม่เหลือร่องรอยไว้เลย เข้าใจว่าผู้เช่าหรือเจ้าของที่ดินบริเวณนั้นเกรงว่าทางราชการจะมายึดที่ดินคืน คงสงวนไว้เพื่อเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ก็เป็นได้ ซึ่งที่ต้นจันทน์ ๓ ต้นนี้ถูกปลูกขึ้นคงอยู่ใกล้นิวาสถานที่ประสูติ และเจริญพระชนม์ชันษา และประทับที่ตำหนักนี้
สมเด็จพระอมรินทรามาตย์(นาค) เป็นพระธิดารูปสวยงดงามของท่านเศรษฐีบางช้าง จนกิตติศัพท์เลื่องลือไปจนถึงกรุงศรีอยุธยา ในสมัยนั้นพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทรงแสวงหาสตรีรูปงามไปเป็นสนม ได้มีอำมาตย์ใกล้ชิดกราบบังคมทูลว่าธิดาเศรษฐีบางช้างรูปสวยนัก จึงได้จัดส่งคนมาสู่ขอ ท่านเศรษฐีผู้เป็นบิดา-มารดาทราบเข้า จึงชิงยกลูกสาวให้แต่งงานกับมหาดเล็กชื่อทองด้วงเสียก่อน มหาดเล็กทองด้วงนั้นภายหลังได้มาเป็นหลวงยกกระบัตร เมืองแม่กลอง แขวงราชบุรี เมื่อสมรสหรือแต่งงานกันแล้วได้มาอยู่กับศรีภรรยาที่ตำบลบางช้างนี้
ครั้นเมื่อเกิดศึกพม่ายกเข้าตีกรุงศรีอยุธยาแตก หลวงยกกระบัตรทองด้วง ได้อพยพครอบครัวหลบภัยพม่าอยู่ในป่าทึบหลังวัดจุฬามณีนั่นเอง ก่อนที่จะได้ไปฝากตัวเข้ารับราชการกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้ครองกรุงธนบุรี ต่อมาสิ้นแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลวงยกกระบัตรทองด้วงหรือเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ตั้งราชวงศ์จักรี สืบต่อมา
การหลบภัยพม่าครั้งนั้น ท่านนาคซึ่งต่อมาได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงครรภ์แก่ จึงต้องพาเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งสถิตย์อยู่ในพระครรภ์ไปหลบซ่อนพม่าอยู่ในป่าทึบหลังวัดจุฬามณีด้วย และต่อมาได้ประสูติกาล ท่านฉิม(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๓๑๐ ตรงกับวันพุธ เดือน ๔ ขึ้น ๗ ค่ำ ปีกุน สถานที่ประสูติก็ว่าในนิวาสถานใกล้ต้นจันทน์อันเป็นนิวาสถานหลังเก่าของท่านเศรษฐีทอง เศรษฐีสั้น นั่นเอง
และยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างที่หลบภัยพม่าอยู่หลังวัดจุฬามณีนั้น กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ (แก้ว) พระพี่นางองค์ที่ ๒ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เสด็จหลบภัยพม่ามาอาศัยอยู่กับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชด้วย กำลังอยู่ในระหว่างทรงพระครรภ์แก่และได้ประสูติพระธิดา ในป่าหลังวัดจุฬามณีด้วยเหมือนกัน เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๑๐ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีกุน พระธิดาพระองค์นี้ทรงพระนามว่า เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด ซึ่งถือนิมิตที่ว่าหนีพ้นพม่าข้าศึกมาได้ ภายหลังเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดได้อภิเษกสมรสเป็นมเหสีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ และได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ นับเป็นพระบรมราชินีองค์ที่ ๒ ของราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นการประหลาดมากที่ได้มาถือกำเนิดที่ตำบลบางช้างในป่าหลังวัดจุฬามณี เหมือนสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑
แผ่นดินตำบลบางช้าง เมืองสมุทรสงคราม บริเวณหลังวัดจุฬามณีนี้ จึงนับว่าเป็นแผ่นดินที่เป็นมงคลยิ่ง เพราะเหตุ ๕ ประการคือ
๑) เป็นสถานที่กำเนิดของพระชนก-ชนนีของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ เท่ากับเป็นดินแดนต้นกำเนิดของราชนิกุลบางช้าง
๒) เป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑ และ สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระราชินีในรัชกาลที่ ๒ ซึ่งท่านเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวสมุทรสงครามโดยตรง
๓) เป็นสถานที่ประทับดับร้อนของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก่อนที่จะไปเป็นแม่ทัพใหญ่ในสมัยกรุงธนบุรี และต่อมาได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ตั้งราชวงศ์จักรี ได้เคยฝากดาบฝากแหวนไปถวายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากดินแดนแห่งนี้ ตำบลบางช้างจึงเป็นสถานที่ตั้งเนื้อตั้งตัวของพระองค์ท่านโดยแท้
๔) เป็นสถานที่ได้รับทุกขเวทนาของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ ที่ต้องเสด็จหลบหนีภัยพม่าไปพักแรมอยู่ในป