ไม่เที่ยง 11.55 น. ^$^
#สีผึ้งหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่
วิชาทำสีผึ้งหลวงปู่ทิมท่านเคยไปศึกษากับ อาจารย์สาย ที่เป็นฆราวาสอยู่บ้านส้อง สีผึ้งที่ท่านทำมีทั้งหมด 3 ชนิด
ชนิดที่ 1 สีผึ้งจะออกเขียวค่อนข้างดำ ใช้ดีทางผู้หญิง ท่านจะไม่ยอมให้ใครง่ายๆ
ชนิดที่ 2 สีผึ้งจะออกเหลืองแก่น้ำมัน ใช้ทางเมตตา-มหานิยม เจรจาค้าขาย ติดต่อการงานต่างๆ
ชนิดที่ 3 ชนิดนี้ท่านจะไม่ค่อยทำ เนื่องจากต้องผสมน้ำมันของคนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ชนิดนี้
จัดว่าเฮี้ยนมาก ท่านเคยใช้ให้หลวงตาพูน (อดีตสัปเหร่อเก่า) นำสีผึ้งปิดปากผีให้หลวงตาพูนไปหุง
ที่ทาง 3 แพร่ง โดยไม่ต้องจุดไฟหุงเลย เพียงแต่เอาขันใส่สีผึ้งปิดปากผีพร้อมทั้งฟืน 3 ท่อนมาวาง
ที่ทาง 3 แพร่ง เตรียมเครื่องเซ่นปลา พร่าปลายำ แล้วเรียกผีผู้ตายมากินเครื่องเซ่น จากนั้นจึงเอาขัน
ที่วางใส่สีผึ้งวางบนไม้ฟืน และกล่าวว่า เมื่อเอ็งกินอิ่มแล้วช่วยหุงสีผึ้งนี้ให้ด้วยพรุ่งนี้จะมาเอา และก็
รีบเดินไปข้างหน้าโดยไม่ต้องเหลียวหลังมามอง พอพรุ่งนี้เช้าไปดู ถ้าสีผึ้งนี้หุงเสร็จแสดงว่าวิชาที่ฝึก
มาสำเร็จเป็นอันใช้ได้ ผลปรากฏว่า สีผึ้งที่หลวงตาพูนนำไปใช้ผีหุง สำเร็จ จึงนำกลับมาให้หลวงปู่ทิม
ท่านดู หลวงปู่ท่านก็มองดูก็ไม่กล่าวอะไรได้แต่ยิ้มๆๆและนำเข้าไปในกุฎิท่านปลุกเสก อีกครั้งหนึ่ง
วิชาทำสีผึ้งที่ผู้เฒ่าสายได้สอนหลวงปู่นั้นจัดว่าเป็นวิชาสีผึ้งที่มีอำนาจเมตตาสูงมาก ผู้เฒ่าสายได้ให้
หลวงปู่เตรียม ดอกไม้ธูปเทียน , ผ้าขาว 1 เมตร , เงินค่าครู 1 บาท , ขนมต้มขาวต้มแดง วันนั้น
ผู้เฒ่าสายได้สอนวิชาทำสีผึ้งให้หลวงปู่ดูอย่างเป็นขั้นตอน โดยเอา รังผึ้งร้าง , ขี้ผึ้งที่ซื้อมาจาก
สาวพรหมจารี มาฝานเป็นแผ่นบางๆ นำไปใส่ในขันสำริด ภายในขันได้ลงยันต์ จากนั้นจึงเอา น้ำมันหอม
, น้ำมันมะพร้าว อย่างแท้เติมลงไป สำหรับพายที่คนสีผึ้งนี้เป็น ไม่พายที่ทำมาจากไม้รักซ้อนหรือไม่ก็
ไม้สาวหลง เมื่อผสมดีจนเข้าที่ เวลากวนให้ภาวนาคาถาไปด้วยว่า
“สัพเพชะนา พะหูชะนา ยะธาพุทโมนะ ธาพุทโมนะยะ พุทโมนะยะทา
โมนะยะธาพุท นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ อะหังยาจามิ”
ภาวนาไปเรื่อยๆจนเห็นว่าสีผึ้งกวนเข้าที่แล้ว จึงนำเอาสีผึ้งตั้งไว้กลางแดด กะให้ดวงอาทิตย์อยู่
ตรงหัวพอดี เอาสายสิญจน์ขึงทั้ง 4 มุม แล้วนั่งทำจิตให้นิ่งปลุกเสกด้วยคาถาบทข้างล่างนี้ด้วยใจ
ที่เป็นสมาธิเมื่อภาวนาปลูกจนได้ที่แล้วจะเห็นเป็นนิมิตที่ดี ใจนิ่งจิตมั่น สีผึ้งนี้ก็ใช้ได้ แต่ถ้าจะให้ดี
ต้องปลุกให้ได้ 7 หรือ 9 วัน หลวงปู่เมื่อรู้เคล็ดวิชาของผู้เฒ่าสายแล้ว ท่านก็เดินไปทดสอบกับ
คณาจารย์รูปอื่นเช่น หลวงพ่อโด่ , หลวงพ่อโสม , หลวงพ่อปี่ ฯลฯ เพื่อดูว่าวิชาที่ท่านเรียนมานี้เป็นอย่างไร