เขียนไว้ในคำนำพิมพ์รวมเล่มครั้งแรก “กระทั่งปี ๒๕๔๖ บ้านช่องเริ่มมีแมวมาป้วนเปี้ยน ได้สังเกตเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับแมว ทั้งสิ่งมีชีวิตและไร้ชีวิต ยามเดินทางใกล้ไกล แลเห็นแมวหมาถูกรถเหยียบซากกลางถนน ใจคอหดหู่ บางคราวเคยรู้สึก --- ทำไมอยู่ดีๆ คนเราถึงรับสัตว์มาเลี้ยง มาดูแลรักษายามเจ็บไข้อุ้มใส่กรงหอบหิ้วไปหาหมอ ทั้งหมาแมวล้วนเป็นภาระหนักอึ้ง”
ทุกวันนี้จำนวนแมวในบ้านค่อยๆ เพิ่มขึ้น ตัวเก่าจากไปด้วยเหตุนานา ตัวใหม่เข้ามาด้วยเหตุเดิมๆ แมวบางตัวจากไปได้รู้ ได้เห็น ได้ดูแลรักษา ได้ฝังกับมือ บางตัวมืดมน หาสาเหตุไม่ได้ ไม่มีการร่ำลา เหลือความโศกเศร้าเกาะกุมหัวใจ
เลี้ยงแมว ๑๒ ปี ครอบครัวเรามีแมวราวๆ ๕๐ ตัว ได้ ‘เข้าคลุกแมว’ ใกล้ชิดจนเนื้อตัวเสื้อผ้าดูดซับกลิ่นแมวล้างไม่ออก ไปไหนแมวชอบมุดเข้ามาดมก่อนมอบไมตรี ให้ลูบ จับ อุ้ม อย่างไว้เนื้อเชื่อใจ เรื่องเลี้ยงแมวจะเอาดีเข้าตัวคนเดียวไม่ได้เลย ภรรยาต่างหากเป็นคนดูแล พาไปหาหมอ รู้จักแมวทุกตัวดีกว่าผม ช่างสังเกตสังกา ป้อนยา ให้อาหาร อาบน้ำ เอาเข้ากรง จับเข้าบ้านก่อนปิดประตู ผมเป็นเพียงผู้สนับสนุน ลูกๆ ต่างแบ่งปันความรักไม่เคยรังเกียจ หรือไม่น่าเลี้ยง ทุกๆ ตัว ทั้งแมวจร ลูกแมวคนมาทิ้ง หรือเกิดในบ้าน ลูกๆ ไม่เคยบอกว่าเอาไปทิ้ง เอาไปปล่อย มีแต่ให้เลี้ยงอีกตัว เข้าใจว่าพ่อแม่ต้องแบ่งเงินให้แมวเพิ่มอีกนิด ส่วนที่พวกตัวควรได้รับค่าขนมหรืออาหารที่อยากกิน ขอบใจที่พวกเขาเข้าใจและยินดีเสียสละ ถ้าเขียนต่อจะยืดยาวไปเรื่อย