อัตโนประวัติ เกิดในสกุล คงรอด เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2469 ณ ต.บางนบ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายช่วย และนางปลีก คงรอด ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
แม้ครอบครัวของท่านจะเป็นชาวนา แต่ทว่าพ่อและแม่ของท่านก็เลี้ยงดูลูกๆ ทุกคนด้วยความรักและเอาใจใส่ อีกทั้งมารดาของท่านเป็นผู้ที่ศรัทธาและมั่นคงในบุญกุศล เมื่อเห็นว่าท่านสนใจในเรื่องของศาสนาจึงได้พาท่านไปฝากกับพ่อท่านแดง วัดบ้านราม ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เมื่ออายุครบ 15 ปี โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว มารดาจึงอนุญาตให้ท่านได้บรรพชา
กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบททดแทนคุณบุพการี ณ วัดหัวลำภู ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มีพระปริยัติวโรปการ (หมุ่น ปุณณรโส) วัดหน้าพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เจียม สีลสุวัณโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย รวมทั้งได้ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับพ่อท่านแดง วัดบ้านราม อ.หัวไทร, พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
ปรนนิบัติรับใช้พ่อท่านแดงและพ่อท่านคล้ายอย่างใกล้ชิด ได้รับความเมตตาถ่ายทอดสรรพวิทยาคมต่างๆ ให้อย่างครบถ้วน อีกทั้งพ่อท่านผอมก็ได้หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิทยาคมต่างๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนเชี่ยวชาญ จากนั้นได้ออกท่องธุดงค์ปฏิบัติสมาธิฝึกจิตไปตามป่าเขาทั่วภาคใต้จนถึงมาเลเซีย
พ่อท่านผอมเคยเล่าให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า "พ่อท่านคล้ายเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ส่วนพ่อท่านแดงเป็นพระดีและเก่งวิชา อยู่ป่าอยู่เขามีภัยรอบตัว คำสอนและการปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้านี่แหละคืออาวุธของพระธุดงค์"
ต่อมา พ่อท่านผอมรับนิมนต์ชาวบ้านเข้ามาจำพรรษาที่วัดหญ้าปล้อง เวลามีคนมาถวายของไม่ว่าของนั้นจะมีค่าสักเท่าใด เมื่อมีคนมาขอท่านก็จะยกให้ไปทันที
นอกจากนี้ พ่อท่านผอมมีความความกตัญญูต่อบุพการี ท่านเดินทางไปรับมารดาของท่านที่หัวไทรมาอยู่กับท่านที่วัดหญ้าปล้อง และตัวท่านเองจะออกบิณฑบาตเพื่อนำอาหารมาเลี้ยงโยมแม่ทุกวัน เบื้องต้นท่านจะเอาอาหารที่บิณฑบาตได้ให้โยมแม่ของท่านรับประทานจนอิ่ม หลังจากนั้นท่านจึงจะฉันต่อ
ท่านปฏิบัติเช่นนี้ทุกวันไม่เคยขาด จนมารดาถึงแก่กรรม
พ่อท่านผอมได้ฌาปนกิจเก็บกระดูกโยมแม่ของท่านไว้ในบัวที่วัด จากนั้นก็ออกธุดงค์ไปจำพรรษายังวัดต่างๆ อีกหลายวัด ปัจจุบัน พ่อท่านผอมอยู่จำพรรษา ณ ศาลาปลายทาง (ศาลาตั้งศพ) วัดไทรขาม อ.ท่าศาลา จ.นคร ศรีธรรมราช