เถาวัลย์หลง ว่านชนิดนี้เป็นไม้เลื้อยมีดวงจิตแห่งเทพผู้ทรงตบะเรื่องมหาหลงสถิตมีอำนาจมากมายนัก หากผู้ใดได้เดินข้ามหรือรอดผ่านไปเป็นต้องหลงงงงวยจนหาทางออกไม่เจอ คนโบราณจึงนิยมนำมาสร้างเป็นซุ้มเข้าร้านค้าเพื่อให้ลูกค้าติดอกติดใจอยากจะมาซื้อของที่ร้านอีก ขนาดที่จะนำมาใช้ทำเป็นมวลสารได้จะต้องมีขนาดใหญ่กว่าข้อมือเด็กขึ้นไปและต้องเป็นต้นที่มีอายุกว่า 100 ปีขึ้นไปเท่านั้น คนในพื้นที่นิยมเรียกกนว่า “เครือเขานางนวล” ผู้ชายสมัยโบราณมักนิยมพกติดตัวและมักจะนำมาอธิษฐานก่อนจะไปจีบสาว หลงทุกรายไป ผู้หญิงก็มักจะนำมาวางไว้เหนือบันใดบ้าน ทำให้สามีลุ่มหลง
เครือเขาหลง ในบรรดาสิ่งลี้ลับอันมาจากว่านยาที่มีมนต์เสน่ห์มหาหลงมากที่สุดก็คือเครือเขาหลง เป็นเหตุให้ผู้ที่นิยมเล่นสายความลุ่มหลงเสาะแสวงหามาติดกาย แต่หารู้ไม่ว่าเครือเขาหลงนี้หากจะนำมาบูชาหรือพกติดตัวต้องได้ผ่านการพลีมาสร้างกุศลเพื่อถวายบุญให้เทวดาที่สถิตในเครือด้วย หาได้จะหยิบมาเฉยๆได้เสียไม่ไหร่ หากเป็นผู้มีบุญและวิชาอาคมจะทำให้ฤทธิ์ของเครือเขาหลงนี้แรงขึ้นทวีคูณ มีชื่อเรียกหลายอย่าง บ้างก็เรียก เครือเขาหลง บ้างก็เรียก เครือเขาหลวง บ้างก็เรียก เครือสาวหลง ตามแต่ละท้องถิ่นเรียกไม่เหมือนกัน
ไม้พญากาหลงนกตายพรายคาต้น เป็นอีกหนึ่งความเข้มขลังเรื่องมหาหลงตามธรรมชาติ ที่นับถือกันมาช้านาน สมัยก่อนผู้ที่รู้ล่วงเรื่องวิชาคาถาอามคมมักปิดปากมิบอกใคร เพราะรู้ว่าเมื่อได้นำมาทำพิธีปลุกเสกตามตำราแล้วไซร้ หากใคร่สิ่งใดก็จักต้องได้ ที่ท่านไม่อยากบอกให้ใครๆรู้เพราะกลัวว่าหากตกไปอยู่ในมือของผู้ที่คิดร้ายก็จะนำความวอดวายมาให้ตัวของเขาและคนรอบข้าง แต่ต่อมาความลับทั้งหลายก็ถูกเปิดเผย คนทั้งหลายก็เริ่มรู้จักกันอย่างกว้างขวางจนมาถึงยุคปู่หมอนาคเพชรแสงแก้วผู้ช่ำชองสรรพวิชาอาคมก็ได้นำมาสร้างขุนแผนพญาหลงเพราะท่านรู้เคล็ดวิชาที่จะทำให้สิ่งอาถรรพณ์นี้มีฤทธิ์ทวีคูณไม่เสื่อมคลาย
กาฝากกาหลง ตามตำราโบราณถือว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เหตุใดจึงเรียกว่ากาหลง เพราะฤทธานุภาพของต้นนี้สามารถทำให้กาทั้งหลายที่มาทำรังได้งงงวยหาทางออกจากต้นไม่เจอ เขาจึงเรียกกันว่ากาฝากกาหลง โบราณผู้รู้เห็นมักนิยมนำมาปรุงเป็นยาแฝด โดยการผสมว่านดอกทองและกระแจะจันทร์ลงไปด้วยเพื่อฤทธิ์ของตัวยาผสานเข้ากัน ตามตำราของปู่หมอนาคท่านเขียนเป็นกลอนเชิงแทรกพระคาถาไว้ดังนี้