ดึกแล้ว ภายในบ้านตะหลิว ห่านมองนาฬิกา ฮึดฮัดๆ มองไปทางหน้าร้าน ลูกค้าขาประจำคนหนึ่ง นั่งมองห่าน ส่วนขาประจำอีกคนเดินไปดูหน้าร้านไปมา ประมาณคอยดูตะหลิว
“เฮียแม่งใจเด็ดว่ะ ให้ลูกตัดสินใจเอง” ขาประจำเอ่ยขึ้น
ห่านทำหน้ายุ่ง “มึงอย่าพูดดิ กูเครียดนะเนี่ย”
“แถมเป็นลูกอย่างไอ้ตะหลิวด้วย” ขาประจำอีกคนเอ่ยพลางส่ายหัว
ห่านหันขวับ “ทำมะ ลูกกูทำมะ”
ขาประจำเอ่ยเพลียๆ “ก็มันเข้าใจชิมิ เรื่องหมั้น เรื่องแต่ง เรื่องความหมายของการแต่งงานน่ะ”
ห่านนั่ง หน้าเครียดแล้วถอนใจ “กูว่าพวกนั้นมันไม่เข้าใจหรอก แต่มันจะเข้าใจว่าความรักคืออะไรเว้ย รักไม่รักมันเข้าใจ”
ขาประจำอีกคนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูเห็นตะหลิวเดินหงอยๆ กำลังจะเข้าร้าน “มาแล้วๆๆๆ” ขาประจำรีบเผ่นกลับมานั่งโต๊ะ
ทั้งสามคนรีบทำเป็นนั่งเหมือนไม่สนใจ ตะหลิวเดินเงียบๆ ผ่านโต๊ะสามคนไป เหม่อๆ
ห่านอดไม่ได้ร้องถามขึ้น “เป็นไงบ้างลูก วันนี้ โอเคมั้ย”
ตะหลิวหันมาช้าๆ หน้าตายังงงๆ "ค่ะ ก็เหมาะกันดีอ่ะค่ะ” เธอเดินขึ้นบ้านไป
สามคนหันมา มองหน้ากันมึนๆ
“คำตอบแม่งเป็นค่ากลางเกินไปป่ะวะ ...” ห่านพึมพำ
ภายในห้องนอน ตะหลิวนั่งมองมือตัวเองที่มีแหวนสวมอยู่อย่างเหม่อๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ห่านโผล่หน้ามาแบบเกรงใจๆ “ขอคุยด้วยหน่อยจิ”
“ค่ะ”
ห่านเดินเข้ามา เอ่อ อ่า ก่อนจะนั่งลง“เมื่อเช้าคิงเขามาขอ... เอ่อ ...”
ตะหลิวสวนขึ้นเบาๆ “ค่ะ”
“เอ่อ..”
“เราก็เหมาะกันดี พ่อว่ามั้ย”
ห่านอึ้ง “อุ้ย.. มัน ..ควรเป็นเหตุผลในการใช้ตัดสินใจรึ”
ตะหลิวย้อนหน้านิ่งๆ“เอ้า มันก็เป็นเหตุผลที่ดีไม่ใช่เหรอพ่อ เราควรเลือกคนที่เหมาะสมกับเรา”
ห่านเหวอๆ “เอ้อ... มันก็”