คืนนั้น เท็นเท็นออกมายืนตรงระเบียง เหม่อๆ มองท้องฟ้ายามค่ำคืนหน้าตาสับสน เหมือนกับได้ยินเสียงร่าเริงของนานาดังแว่วมา “เท็นเท็น เท็นเท็น แล้วเราจะได้เจอกันอีกนะ” เท็นเท็นเหมือนจะมีรอยยิ้มจางๆ ขึ้นมา
เช้าวันใหม่ เท็นเท็นนั่งหน้านิ่งๆ รอในรถ ตะหลิวรีบวิ่งออกมาขึ้นรถ เท็นเท็นออกรถด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
“ขอโทษทีจ๊ะ ช้าไปนิด”
“วันนี้ฉันคงไม่เอารถไปแล้วนะ เราต่างคนต่างไปแล้วกัน”
“อ้าว ทำไมอ่ะ” เท็นเท็นนิ่งไม่ตอบ “แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก...มีอะไรรึเปล่า" ตะหลิวหันมามองหน้าเท็นเท็น
เท็นเท็นเอ่ยเสียงเรียบๆ เศร้าๆ "ตะหลิว อะไรๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ นะ" ตะหลิวอึ้ง “มันจะเปลี่ยนไปแบบที่ฉันก็ไม่สามารถรู้ได้จริงๆ ว่ามันจะเปลี่ยนไปเป็นยังไง”
ตะหลิวหันมามอง “เธอมีอะไรจะบอกฉันเหรอ”
เท็นเท็นถอนใจ “ยัง ไม่ใช่ตอนนี้ ...แต่ฉันจะพยายามบอกเธอให้เร็วที่สุด” ตะหลิวเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง เท็นเท็นเดินออกไป ก่อนคว้าจักรยานออกจากบ้านไป
เวลาเย็น ที่ร้านอาหารของตาห่าน ห่านกับคิงช่วยกันยกจานออกมา
“มาแล้วๆ อาหารสูตรใหม่ มาช่วยกันชิมคร๊าบบบ” ห่านเอ่ยชวนชิม ทุกคนขยับตัวอย่างตื่นเต้น
ห่านวางจานอาหาร ที่มีปาท่องโก๋สองแบบ กับหม้อน้ำราดหน้าแยกมา
“โหย หอมอ่ะ น่ากิน ราดหน้าเหรอ” แป่วถาม
“อือ ราดหน้าปาท่องโก๋” คิงตอบ
“เฮ้ยยย” แป่ว และอาร์มตกใจอึ้งๆ
ตะหลิวตบมือชอบใจ “ดีๆๆ ชอบกิน ชอบกินปาท่องโก๋อ่ะ แล้วก็ชอบราดหน้าอะ”
แป่วทำหน้ารู้ทัน แล้วมองคิง “อย่างนี้นี่เอง...”
คิงเขินๆ “เฮ่ยยย..ก็แค่ลองนึกๆ เมนูที่มันจะแบบทำให้เป็นลูกจำของร้านไง นี่ๆๆๆ มีสองแบบนะ แบบกรอบ กะแบบนุ่ม เวลาสั่งก็โก๋กรอบ หรือโก๋นุ่ม มาๆๆ ลองชิมก่อน อยากให้ชิมโดยไม่ปรุงนะ แล้วบอกด้วยว่าชอบ แบบไหน” ทุกคนตักกิน แล้วก็ดูอร่อยกัน คิงจดๆ ตามที่เพื่อนบอก ตะหลิวกินอย่างอร่อยสุดๆ คิงยิ้มเดินเข้าไปถาม “ชอบแบบไหน”
“สองแบบเลย กรอบก็อร่อย นุ่มก็นิ่มๆ ลื่นคอ” ตะหลิวเอ่ยออกมาปลื้มๆ
ห่านกินเต็มปาก “ดีดี มีลูกจำเป็นเมนูต่างๆ ของปาท่องโก๋ พ่อว่าดี สำคัญคือมันอร่อยด้วยสิ”
“เปิดร้านได้เลยนะลูกพี่” อาร์มสนับสนุน
“ใช่ๆๆจะไปกินทุกวันเลย” ตะหลิวเห็นด้วย
“ก็ลองไม่มาดิ จะตามไปเขกหัวให้” คิงยิ้มๆ
ตะหลิวทำตาเหล่ใส่ “ไม่กัว ไม่กัว” คิงยิ้มเอ็นดู
แป่วเอาแขนกระทุ้งอาร์มแบบเอาแล้วเว้ยๆ คิงดูเขินๆ ตะหลิวกินแบบไม่รู้เรื่องต่อไป
อีกด้านหนึ่ง เท็นเท็นมองภาพคิงกับตะหลิวนิ่งๆ จากในรถ แววตาไม่บอกความรู้สึกอะไร นอกจากแววเหงาๆ ลึกๆ
เวลาต่อมา เท็นเท็นเดินเข้าบ้านมาเหนื่อยๆ ทรุดตัวลงที่เก้าอี้ แก้วเห็นเอาน้ำส้มมาให้ ชะโงกดู เห็นเหนื่อยๆ เลยยืนมอง แก้ววางแก้วน้ำส้ม ยืนมอง พลางเอ่ยเสียงยิ้มๆ “วันนี้เหนื่อยมากเหรอคะหมอ”
เท็นเท็นลืมตา ยิ้มให้ผู้เป็นแม่ “แหม...แม่เรียกซะผมยิ้มเลย”
แก้วนั่งข้างๆ“ก็ยิ้มซะบ้างสิคะคุณหมอ คนไข้จะได้ไม่กลัว รู้มั้ยคะ”
“แม่...”
“ขา...”
“ถ้าแม่เป็นผู้หญิงอายุเท่าๆ ผม แม่จะรักผมมั้ย”
แก้วอึ้งคิด “อุ้ย...คิดก่อนนะ อือ...” แก้วเสียงอ่อยๆ “แม่ชอบผู้ชายใจดี ตลกเก่ง หัวเราะง่ายอ่ะ แบบพ่ออ่ะ แบบพ่ออยู่ด้วยแล้วมันสบายใจ” เท็นเท็นถอนใจ แก้วเริ่มห่วงๆ “มีอะไรรึเปล่า ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นถามอะไรแบบนี้เลย”
“ก็เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องสนใจไง”
“แล้ววันนี้มันสำคัญแล้วเหรอ จู่ๆ ถึงสนใจขึ้นมา”
“ผมกำลังต้องการข้อมูลในการประมวลผล”
แก้วถอนใจ “ใช้ตรงนี้...” แก้วเอานิ้วจิ้มๆ ที่หัวใจเท็นเท็น “ให้มากกว่าตรงนี้สิ” จากนั้นแก้วก็จิ้มๆ ที่หัวของลูกชาย เท็นเท็นถอนใจ ก่อนจะคำรามพร้อมเอาหมอนปิดหน้า แก้วมองๆ ก่อนเดินเข้าไปในครัวพลางตะโกนออกมา “พรุ่งนี้ขับรถไปรับพ่อที่สนามบินให้แม่ด้วยนะคะ”
“คร๊าบบบบบผม” เท็นเท็นเอ่ยทั้งๆ ที่หมอนยังปิดหน้าอยู่
ที่ร้านของตาห่าน ห่านกำลังทาสี เก็บของบนชั้นสองของร้านที่เขาตั้งใจจะกลับมาอยู่กับตะหลิว ตะหลิวถือกล่องของอะไรบางอย่างมาจัดๆ เก็บๆ พลางมองผนังว่างๆ ที่เคยมีรูปแม่อย่างเหงา “ตรงนี้มันโล่งๆ นะพ่อนะ”
ห่านเดินมายืนมองผนังข้างๆ “อือ.. นี่พ่อกำลังเคาะสนิมอยู่”
ตะหลิวเดินไปเอามือลูบๆ “สนิมขึ้นตรงไหนนะพ่อ”
ห่านหัวเราะยิ้มๆ “เปล่า หมายถึงกำลังจะรื้อฟื้นการวาดรูปอีกครั้ง ยังอยากให้มีรูปแม่ยิ้มๆ อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม อยากให้เสร็จก่อนที่เราจะย้ายกลับเข้ามา”
“เราจะย้ายกลับมาเมื่อไหร่นะพ่อ”
“ต้นปีหน้าละมั้ง...เป็นไงล่ะ ไม่อยากย้ายรึเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ ย้ายก็ได้...เท็นเท็นบอกว่าอะไรๆ ก็ต้องเปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ” ห่านหัน มามองตะหลิว ทำท่าจะถามอะไรสักอย่าง “พ่อ พ่อว่าจะมีใครสักคนรักหนูที่หนูเป็นแบบนี้มั้ย”
“มีสิ ลูกก็รู้ว่ามี แล้วลูกก็รู้ว่าใคร แต่ถ้าลูกถามแบบนี้ มันหมายถึงลูกกำลังถามถึงคนที่ลูกไม่แน่ใจว่า เขาจะรักลูกหรือเปล่า...”
ตะหลิวก้มหน้าหงอยๆ “จนป่านนี้แล้วหนูก็ยังไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง”
“ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ดีมั้ย อย่ามัวแต่หลับไปเรื่อย ตื่นมาเจอความจริงมั่งดีกว่ามั้ยลูก”
ตะหลิวเงียบไปพักหนึ่ง “พ่อ ... พ่อเป็นนาฬิกาให้หน่อยสิ”
ห่านมองลูกที่ก้มหน้าก้มตาเหมือนจะเก็บของฆ่าเวลาอย่างสงสารๆ
เท็นเท็นไปรับบอมบ์ที่สนามบินขับรถกลับบ้าน บอมบ์ดูสบายๆ เหลือบมองเท็นเท็น ที่ดูเครียดๆ “ช่วงนี้ปิดเทอมแล้วสิ”
“ฮะ”
“แล้วเปิดเมื่อไหร่ล่ะลูก”
“ราวๆ ต้นปีหน้าฮะ”
“หุ้นส่วนใหม่ของพ่อก็น่าจะเริ่มๆ ช่วงนั้นพอดีนะ”
“ฮะ” เท็นเท็นหน้าเครียดขึ้นนิดหนึ่ง
บอมบ์เปลี่ยนเรื่อง “เฮ้อออ ชักจะหิวแล้วสิ พาพ่อไปร้านตาห่านหน่อยสิ อยากกินข้าวฝีมือมันน่ะ”
เท็นเท็นขับรถไปหน้านิ่งๆ พยายามทำตัวปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้