พระเกจิดัง”หลวงพ่อจอน”พลีผงพรายกัญญา
พิธีตามตำราครู-สร้าง “พระขุนแผนสะดุ้งมารฯ”
ผู้สื่อข่าวคัมภีร์นิวส์ รายงานว่า กำลังมีกระแสสั่งจองร้อนแรงมากๆกับวัตถุมงคลรุ่นนี้ “พระขุนแผนสะดุ้งมาร (กลับ) พรายชุมพล” และ “พญาราหูล้อมจักรวาลบันดาลทรัพย์” เป็นรุ่นที่ได้รับความเมตตาอย่างมากจาก 2 พระคณาจารย์ชื่อดัง พระครูวัตรป่า (ญาคูจุณฑ์) เสนาสนะวัตรป่าเจ้าสัว จ.อุบลราชธานี และหลวงพ่อจอน เจ้าอาวาสวัดบุญฤทธิ์ จ.นครราชสีมา สำหรับพระขุนแผนสะดุ้งมาร (กลับ) พรายชุมพล” ได้จัดพิธีพลีผงพรายกัญญา ลูกอมเนื้อกะยอม และมวลสารต่างๆมากมาย พร้อมกดพิมพ์นำฤกษ์ไปแล้วอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ภายในอุโบสถวัดบุญฤทธิ์ โดย หลวงพ่อจอน ประกอบพิธีกรรมตามตำราครูบาอาจารย์ทุกขั้นตอน กล่าวสำหรับ หลวงพ่อจอน ท่านเคยปลุกเสก ตะกรุดพญาราหูดับเดือนดับตะวันฯ วาระสุดท้าย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักสะสมอยู่ในขณะนี้ หลวงพ่อจอนท่านเชี่ยวชาญเรื่องวิชาเทพราหู ในดินแดนถิ่นอีสานเมืองหมอแคนไม่มีใครเปรียบได้ ท่านได้เรียนมาจากขอมลาวบรมครู ใช้แก้ดวงลูกศิษย์มาถึงหกสิบปีซึ่งบ่งบอกและพิสูจน์ได้ว่าท่านเก่งจริง ท่านดังมาได้เพราะท่านสำเร็จวิชาเทพราหูที่ดั้นด้นไปเรียนวิชาดั้งเดิมถึงเมืองเวียงจันทร์ประเทศลาว เมื่อสืบค้นเทียบเคียงตำราแล้วเป็นตำราเดียวกันกับที่โยมพ่อหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง สอนให้หลวงพ่อน้อยไม่มีผิดเพี้ยน นั่นหมายความว่าท่านได้เรียนมาจากต้นวงศ์สายบรมครูเดิมของวิชานี้เลย จึงไม่แปลกใจว่าบรรดาพ่อค้าประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง มุ่งหน้าเข้าวัดบุญฤทธิ์ให้ท่านทำวิชาราหูให้ ราหูที่ท่านสร้างแต่ละรุ่น หายากและมีราคาค่านิยมสูงมาก ท่านได้ธุดงค์ไปเรียนวิชาจากหลายสำนักอาทิ สายสมเด็จลุน ประเทศลาว,หลวงพ่อตะเบง ประเทศพม่า, หลวงพ่อจันภูมิ พระเกจิชาวเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา, หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน, พ่อครูหลวงปู่ใหญ่, ปู่ฤาษีตาไฟ, ท่านพ่อปู่มิ่งตาทิพย์ เมืองเสียมราช ประเทศเขมร สายบรมครูปู่เทพโลกอุดร พระกายสิทธิ์ที่อุดมไปด้วยอิทธิฤทธิ์ ซึ่งยากที่จะหาใครที่อดทนบำเพ็ญเพียรร่ำเรียนจนสำเร็จ หลวงพ่อจอนท่านเคยเดินธุดงค์เข้าไปในป่าห้วยขาแข้งซึ่งเป็นป่าที่ห้ามคนนอกเข้าไปโดยเด็ดขาดในสมัยนั้น หลวงพ่อจอนท่านเล่าว่า มีแต่สัตว์ดุร้ายทั้งนั้น มีทั้งเสือ สิงโต หมี เดินกันเหมือนในสวนสัตว์ แต่ก็ไม่ทำอะไรท่านมีเพียงแต่มองผ่านไป ครั้นถึงเวลามืดก็จะปักกรดท่านก็เลือกที่มีบริเวณแอ่งน้ำ แต่หารู้ไม่นั่นเป็นแหล่งรวมสัตว์ต่างๆ จะลงมากินน้ำในเวลากลางคืน ท่านบอกว่าพวกสัตว์จะเดินรอบกรดท่านตลอดแต่ก็ไม่ทำอะไร เมื่อตกดึกบรรดาพวกสัตว์ต่างๆ ก็พากันแยกย้ายกันออกไป ท่านจึงเจริญกรรมฐานนั่งสมาธิ เห็นดวงวิญญาณที่เร่ร่อนอยู่มากมาย บางตนก็มาขอท่านก็กรวดน้ำให้แล้วก็ไป บางตนมาแบบนักเลง เขย่ากรดจนสั่นไหว แต่ท่านก็นิ่งจนเห็นว่าไม่ยอมรับส่วนบุญแน่แล้ว ท่านจึงเด็ดต้นหญ้าแล้วบริกรรมคาถาเทพราหูบันดาลฤทธิ์ เสร็จแล้วก็ปล่อยให้ออกไปจากกรด ท่านบอกว่าวิญญาณพวกนั้นหายไปแบบไม่เหลือเลย ท่านจึงมั่นใจว่าวิชาที่เล่าเรียนมาใช้ได้ผล ในสมัยก่อนแถบผืนป่าดงพญาเย็นเป็นอะไรที่ไม่มีใครอยากมา ซึ่งเป็นป่าดงดิบอันตรายจากสัตว์ร้ายนาๆ ชนิด อากาศเย็นมาก ผีสางนางไม้ดุ ผีปอบนี่เป็นที่หนึ่งเลยในสมัยนั้น แต่ก็ใช้คาถาเทพราหูบันดาลฤทธิ์สงเคราะห์ทุกคนจนมาถึงทุกวันนี้