ซวยหนักยังหวาดผวาอยู่ ดีไซเนอร์ชื่อดัง ป๋อง ณรงค์วิทย์ ทองเนตร แห่งห้องเสื้อ ซีเบ็ท ไทยแลนด์ Zibeth Thailand กับภรรยาชาวฮ่องกง ริคโค่ ซิ่ว ไหว ธง โดนแท็กซี่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ส่อแววว่าจะทำร้ายร่างกาย ซ้ำร้ายป๋องและภรรยาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจคลองตัน กรุงเทพฯ ตำรวจดูเหมือนจะเร่งติดตามหาคนร้ายมาให้ แต่ผ่านไป 2 อาทิตย์ก็ยังเงียบกริบ! หลายคนอาจจะพอจำกันได้ ก่อนหน้านี้ป๋องเคยมีกรณีวิวาทะกับ ม้า อรภา กฤษฎี ในกรณีที่ม้าไปวิจารณ์เสียหายอย่างรุนแรง เกี่ยวกับชุดราตรีสุดหวิวที่ เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว ใส่ไปออกงานอีเวนต์ ซึ่งเป็นชุดที่ป๋อง เป็นคนออกแบบนั่นเอง
ป๋องเล่าเหตุการณ์คืนระทึกขวัญให้ฟัง ด้วยน้ำเสียงที่ยังตื่นเต้นอยู่ว่า "ป๋องกับแฟนเรียกแท็กซี่จากตลาดแถวห้วยขวาง เพื่อที่จะไปสุขุมวิท 50 แท็กซี่วิ่งไปสักพัก ตอนนั้นประมาณตี 2 ได้แล้ว วิ่งๆ ไปสักพักเรารู้เลยว่าเขาตั้งใจวิ่งผิดเส้นทาง เพราะเส้นทางนี้ป๋องไปมาประจำคุ้นเคยดี ก็ค่อยๆ บอกแท็กซี่ว่ามาผิดทางหรือเปล่า เขาบอกว่าเป็นทางลัด ซึ่งเราดูแล้ว ยังไงมันก็ไม่ใช่ทางลัดแน่นอน ก็บอกเขาไปว่าควรจะไปวิ่งเส้นนี้ เส้นนั้นนะ แท็กซี่ก็พูดขึ้นมาว่า ทำไมจู้จี้จุกจิกอย่างนี้ ไอ้ควาย ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้งี่เง่า มึงทำไมเรื่องมากหนักหนา คือจะชวนเราทะเลาะตลอดเลย ป๋องยืนยันได้ว่าป๋องและแฟนไม่ได้พูดจาอะไรที่ไม่ดีเลย ไม่ได้ด่าแท็กซี่ก่อน เราพยายามพูดด้วยความสุภาพด้วยตลอด เพราะไม่อยากจะมีเรื่องด้วย และที่สำคัญมันก็ดึกดื่นแล้วด้วย
"ทะเลาะกันสักพัก เขาก็ไล่เราลงจากรถ ไล่เหมือนหมูเหมือนหมาเลย สุดท้ายแท็กซี่ก็ปล่อยเราให้ลงแถวมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ป๋องจ่ายเงินให้ไปด้วยจะได้จบปัญหา เขาก็เดินไปที่รถ เราก็นึกว่าเขาจะขับรถออกไปธรรมดา ที่ไหนได้เขาไปหยิบขวดน้ำที่มีน้ำอยู่เต็ม แล้วเอามาเขวี้ยงใส่เรา มันมืดและดึกมาก แฟนป๋องหลบไม่ทัน ก็โดนขวดน้ำใส่เข้าจังๆ ที่หน้า
"คืนนั้นป๋องรีบพาแฟนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจคลองตัน และไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเอาไว้ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบตี 5 ครึ่ง ป๋องเข้าใจตำรวจนะว่ามีคดีเยอะ แต่ก็สงสัยอยู่ว่า เราให้ข้อมูลที่ชัดเจน มีเลขที่ทะเบียนรถชัดเจน จนป่านนี้แล้วทำไมตำรวจยังตามจับตัวมาไม่ได้ ก็สงสัยอยู่ แท็กซี่คันนี้ยังไปออกรับส่งผู้โดยสารอีกหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ จะเกิดเหตุไม่ดีกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ด้วยหรือเปล่าอีกก็ไม่รู้ เรารู้แต่ว่าแท็กซี่คนนี้มีพฤติกรรมที่ไม่ดีเลย
"อยากให้แท็กซี่คนนั้นและต้นสังกัดของเขา ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับการการกระทำ เราอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ป๋องอยากจะออกมาเตือนภัยสังคมด้วยว่า แท็กซี่แบบนี้ก็มีอยู่ ไม่อยากจะให้เกิดเหตุกับผู้โดยสารคนอื่นๆ อีก หลายคนอาจจะมองว่าแค่โดนขวดน้ำเขวี้ยงใส่หน้า ไม่ได้เป็นอะไรมากมายทำไมถึงออกมาโวยวาย กรณีนี้คือการทำร้ายร่างกายกัน ลองคิดดูสิครับ ถ้าแท็กซี่คนนั้นมีปืนหรือมีอาวุธอย่างอื่นอีกในรถ หรือถ้าแฟนป๋องโดยสารแท็กซี่ไปคนเดียว จะเกิดอะไรขึ้น".