สวัสดีค่าาาาวันนี้ Bakingmill จะมาร

สวัสดีค่าาาา

วันนี้ Bakingmill จะมารีวิว

Mistine See Through Super Oil Control Powder SPF 25 PA++
ที่พึ่งสอยมาหมาดๆ


กล่องเป็นหน้าขุ่นแม่ แถมสภาพแพคเกจดูมีราคาขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆเยอะ


มีการเขียน See Through หรือ C2 อีกด้วยนะ 555555

เปิดออกมาข้างในดูหรูหราขึ้นไปอีกก ตลับกลมเงางาม แต่พลาสติกยังก๊องแก๊งไปนิด

ปล.ถ่ายรูปตลับยากง่ะ ตลับมันเงา 55555555

มีกระจกมาให้ ใหญ่คับตลับเลยย
พัฟแอบอยู่ด้านล่างชั้นแป้ง

บรรจุ 10 กรัม
เราได้มาในราคา 169 บาท

เดินเจอร้านเครื่องสำอางค์เห็นหน้าแม่พลอยหราอยู่หน้ากล่อง ไม่สามารถมองข้ามได้จริงๆ ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่ซื้อแป้งซักพัก เพราะตอนนี้มีแป้งในครอบครองที่ดองไว้เยอะมาก 555555

ทางแบรนเคลมมาว่าอณูแป้งเล็กกว่า 1 ไมครอน ควบคุมความมันกว่าเดิม 7 เท่า

แป้งผสมรองพื้น สูตร Oil Free ปราศจากน้ำมัน ช่วยควบคุมความมันพร้อมปกปิดได้อย่างเรียบเนียน เนื้อแป้งบางเบาด้วยอนุภาคแป้งที่เล็กละเอียดกว่า 1 ไมครอน ช่วยให้เนื้อแป้งเนียนละเอียดโปร่งเบาเป็นพิเศษ ไม่อุดตันรูขุมขน ให้หน้ามันๆเยิ้มๆกลับสวยสดใสเนียนกริ๊บในพริบตา ด้วยประสิทธิภาพในการควบคุมความมันที่มากกว่าเดิมถึง 7 เท่า สยบได้ทุกสาเหตุความมัน

มีทั้งหมด 3 สี คือ

S1 สำหรับผิวขาว

S2 สำหรับผิวกลาง

S3 สำหรับผิวสองสี

เราซื้อ S1 มา แต่ตอนก่อนซื้อ เราเห็นรีวิวบอกว่า แป้งรุ่นนี้ขาวมากกก มากกว่ารุ่นอื่นๆ เยอะ เราก็เออ ดีใจ มีแป้งขาวๆใช้ซะที แต่อีกใจก็กลัวขาวเกินไป แต่ก็เอามาใช้เป็นไฮไลท์ได้อยู่ดี ไม่เสียหาย

แต่พอมาลองทากับหน้าดูก็ไม่ได้ขาวไปกว่าหน้าเราเลย เท่ากับสีผิวหน้าเราด้วยซ้ำ ลองปาดที่ท้องแขนก็เท่าท้องแขนเราพอดี เรามีความรู้สึกว่ามันคล้ายมิสทีนบลู





ดูในรูปอาจจะมองไม่ค่อยออก แต่เรารู้สึกว่า

มิสทีนบลู – ขาวกว่า ไม่เหลืองเท่าซีทรู กลิตเตอร์เม็ดใหญ่กว่า เนื้อเบาฟูๆ กว่า

มิสทีนซีทรู – ขาวแต่ไม่เท่าบลู เหลืองกว่าบลู กลิตเตอร์ละเอียดกว่า เนื้อละเอียดอณูดูแน่นกว่า

เราได้ลองทดสอบการปกปิดของมิสทีนซีทรูดู
โดยการใช้ข้อมือด้านในของเรา ที่มีเส้นเลือดสีเขียวชัด แทนรอยช้ำใต้ตาละกัน
เราใช้อายไลเนอร์ดินสอสุดทนตัวโปรด Odbo สีดำ ขีดไว้ แทนรอยดำ
ใช้ลิปสติกสีแดงขีดไว้ แทนรอยแดง

แล้วเราก็ใช้แป้งซีทรูมาตบๆ กดๆ ปาดๆ บนสิ่งเหล่านี้ดู

เราว่ามันก็ไม่ค่อยปกปิดเท่าไรนะ แต่เรายอมรับในความบางเบาสุดๆของมัน
ทั้งๆที่เป็นแป้งผสมรองพื้นที่เนื้อแน่นพอสมควรเลย
เรายังไม่ได้ลองทาซีทรูไปผจญอากาศเมืองไทยมาแบบเต็มขั้น ก็อย่างที่รู้ว่าช่วงนี้อากาศไม่ร้อนมาก แถมฝนตกตลอด ก็เลยไม่ค่อยได้ออกไปกลางแจ้งนานๆ



แถมช่วงนี้เราดูแลฟื้นฟูผิวหน้าที่ไปแพ้ตัว Effaclar K ของ La Roche-posay มาอยู่ เลยไม่ค่อยได้แต่งหน้าออกไปไหนนานๆ



แต่ลองอาบเหงื่อดูแล้ว แน่นอยู่เลยแหละ ทาอยู่ไม่ถึงครึ่งวัน อยู่ทั้งนอกและในห้องแอร์ ยังไม่ปรากฏความมันออกมาจากผิวหน้าเลยซักนิดด ไว้จะลองทาไปตะลุยอากาศเมืองไทยดู


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะค้าาา ไว้ฤกษ์งามยามดี คงรวบรวมแป้งที่มีในครอบครอง และผ่านบทพิสูจน์อันทรหดแล้ว มาเปิดกรุให้ดูกันนะ อิอิ

Bakingmill

結果 (繁體中文) 1:

嗨，值。今天會來 Bakingmill 審查。Mistine 看穿超級油控制粉 SPF 25 PA + +這依賴于街道，來得很這個盒子是一個網頁範本，再加上包條件見汗做了更多的早期模型。C2 寫太看到通過或 555555。原來的側邊或更豪華 e 蘆葦墨水匣，塑膠，發亮的圓但仍有點 ngakaeng 最好 ！如果一張照片拍攝墨水匣困難全景設置。墨水匣-光澤 55555555有巨大挫折來玻璃盒附屬騙子。酥麵團層，隱藏下面。含有 10 克我們花了 169 泰銖。走與化妝品商店，看到範本頁框可以不位址 RA 珠寶忽略，真的。雖然我認為它不會買麵粉酒店。因為現在有沒有麵粉泡菜的持有，持有大量的 555555。通過白蘭地面粉顆粒小於 1 微米控制比原來 7 倍的索賠。粉基礎無油無油配方。控制與光滑的封面麵團薄與粒徑小於等於 1 微米級的解析度，能夠讓麵團光滑半透明光線。沒有堵塞的毛孔。面對現實吧，在眨眼的一瞬間輝煌背 krip yoem 草原。更多的控制屠宰者的 7 倍多達所有了引起了它。所有三種顏色是︰S1 白色皮膚S2 為虹膜的S3 對兩種顏色的皮膚。เราซื้อ S1 มา แต่ตอนก่อนซื้อ เราเห็นรีวิวบอกว่า แป้งรุ่นนี้ขาวมากกก มากกว่ารุ่นอื่นๆ เยอะ เราก็เออ ดีใจ มีแป้งขาวๆใช้ซะที แต่อีกใจก็กลัวขาวเกินไป แต่ก็เอามาใช้เป็นไฮไลท์ได้อยู่ดี ไม่เสียหาย แต่พอมาลองทากับหน้าดูก็ไม่ได้ขาวไปกว่าหน้าเราเลย เท่ากับสีผิวหน้าเราด้วยซ้ำ ลองปาดที่ท้องแขนก็เท่าท้องแขนเราพอดี เรามีความรู้สึกว่ามันคล้ายมิสทีนบลูดูในรูปอาจจะมองไม่ค่อยออก แต่เรารู้สึกว่ามิสทีนบลู – ขาวกว่า ไม่เหลืองเท่าซีทรู กลิตเตอร์เม็ดใหญ่กว่า เนื้อเบาฟูๆ กว่ามิสทีนซีทรู – ขาวแต่ไม่เท่าบลู เหลืองกว่าบลู กลิตเตอร์ละเอียดกว่า เนื้อละเอียดอณูดูแน่นกว่าเราได้ลองทดสอบการปกปิดของมิสทีนซีทรูดูโดยการใช้ข้อมือด้านในของเรา ที่มีเส้นเลือดสีเขียวชัด แทนรอยช้ำใต้ตาละกันเราใช้อายไลเนอร์ดินสอสุดทนตัวโปรด Odbo สีดำ ขีดไว้ แทนรอยดำใช้ลิปสติกสีแดงขีดไว้ แทนรอยแดงแล้วเราก็ใช้แป้งซีทรูมาตบๆ กดๆ ปาดๆ บนสิ่งเหล่านี้ดูเราว่ามันก็ไม่ค่อยปกปิดเท่าไรนะ แต่เรายอมรับในความบางเบาสุดๆของมัน ทั้งๆที่เป็นแป้งผสมรองพื้นที่เนื้อแน่นพอสมควรเลยเรายังไม่ได้ลองทาซีทรูไปผจญอากาศเมืองไทยมาแบบเต็มขั้น ก็อย่างที่รู้ว่าช่วงนี้อากาศไม่ร้อนมาก แถมฝนตกตลอด ก็เลยไม่ค่อยได้ออกไปกลางแจ้งนานๆ แถมช่วงนี้เราดูแลฟื้นฟูผิวหน้าที่ไปแพ้ตัว Effaclar K ของ La Roche-posay มาอยู่ เลยไม่ค่อยได้แต่งหน้าออกไปไหนนานๆ แต่ลองอาบเหงื่อดูแล้ว แน่นอยู่เลยแหละ ทาอยู่ไม่ถึงครึ่งวัน อยู่ทั้งนอกและในห้องแอร์ ยังไม่ปรากฏความมันออกมาจากผิวหน้าเลยซักนิดด ไว้จะลองทาไปตะลุยอากาศเมืองไทยดูขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะค้าาา ไว้ฤกษ์งามยามดี คงรวบรวมแป้งที่มีในครอบครอง และผ่านบทพิสูจน์อันทรหดแล้ว มาเปิดกรุให้ดูกันนะ อิอิBakingmill