ภายในร้านตาห่าน ตะหลิวมาทำความสะอาดร้านเงียบๆ คนเดียว เธอขัดครัว เก็บจานชาม เงียบๆ หน้านิ่งๆ
คิงมายืนมองเธออยู่เงียบๆ “ทำไมไม่โทรบอก จะได้มาช่วย”
“ก็ไม่เห็นต้องโทรบอก คิงก็มาช่วยได้อยู่ดี” ตะหลิวตอบยิ้มๆ
“อั้นแน่ เดี๋ยวนี้ยอกย้อนนะ ..”
“เมื่อวานขอโทษนะ” ตะหลิวยิ้มเศร้าๆ คิงนิ่งไม่ตอบ ตะหลิวมองอีกฝ่ายก่อนจะทำงานต่อ
คิงชวน “ไปเดินเล่นดีกว่าน่า อากาศดีๆ”
“ขอเล่นเป็นคนทำความสะอาดอีกแป๊บนะ จะเสร็จแล้ว”
“ได้ งั้นเล่นด้วย จะได้เสร็จเร็วๆ” คิงคว้าม็อบไปถู ทั้งสองคนทำความสะอาดด้วยกันเงียบๆในร้าน
อีกด้านหนึ่ง เท็นเท็นกำลังเดินเล่นเพลินๆ กับนานา เท็นเท็นชี้นั่นนี่คอยอธิบายต่างๆ ให้นานาฟัง
นานาฟังไป หาอะไรพัดไป“ที่นี่ร้อนมากเลย”
“อื้อ เดี๋ยวก็ชิน” เท็นเท็นเอามือเช็ดเหงื่อตามหน้าตาให้
“จริงๆ นี่น่าจะเป็นช่วงที่อากาศเย็นนะ”
“กรุงเทพ ไม่มีช่วงไหนเย็นหรอก...จะมาอยู่ไหวเหรอ”
นานาหันมายิ้มหวาน “เท็นนี่ อยากให้อยู่มั้ย” เท็นเท็นยิ้มๆ นานาเดินดูข้างทางไปเรื่อยๆ อย่างใช้ความคิด ก่อนหันมาบอก “นานาจะลองเข้าไปดูระบบงานของพ่อเท็นนี่สักระยะ แล้วจะประเมินว่าตัวเองเหมาะกับงานนี้มั้ย ชอบมั้ย เอาจริงๆ แล้ว ไม่ได้อยากมาเมืองไทยหรอก...อยากไปลองวิชาในที่ที่มันยากกว่านี้ แต่.. ก็เห็นว่า พ่อเท็นนี่ต้องการหุ้นส่วนและคนช่วยทำงาน”
“อือ .. พอดีไอ้สิ่งที่ฉันอยากทำ มันไม่ใช่สิ่งที่พ่อทำอยู่ซะด้วย”
“นานาไม่เคยนึกเลยว่าเท็นนี่จะอยากเป็นหมอ เพราะอะไรอ่ะ เล่าให้ฟังหน่อยสิ”
จู่ๆ ภาพตะหลิวที่ร้องไห้เขย่ายู่ยี่ ภาพลุงเชาว์บดยาทำยา ภาพที่ตะหลิวร้องไห้กลางป่า ก็แวบขึ้นมาโดยเท็นเท็นเองก็นึกไม่ถึง “อือ ..จู่ๆ มันก็แค่กังวลถึงวันที่เราจะทำอะไรไม่ได้ ถ้าเกิดคนที่เรารัก อยู่ในอันตรายขึ้นมา คือ แบบไม่รู้สิ อยู่ๆ ก็คิดแค่ว่าอยากดูแลใครสักคนให้ได้จริงๆ ในทุกๆ เรื่อง ตลกป่ะ”
นานามองคิดๆ “เธอพูดเหมือนคนที่กำลังมีความรัก เธอรู้ตัวรึเปล่า” เท็นเท็นอึ้งไป “เท็นนี่...เธอรักใครอยู่รึเปล่า”
“ก็...” เท็นเท็นเหวอๆ อ้ำอึ้ง
“เธอรู้มั้ยว่า ทำไมฉันถึงยอมที่จะลองมาทำงานที่นี่ ทั้งที่ฉันจะไปที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้”
“ก็...”