Special Part : หนึ่งวันธรรมดาของก้องภพ
06:00
ก้องภพตื่นนอน
ก้องภพเป็นคนตื่นเช้าโดยปกติ ส่วนมากจะเป็นการตื่นแบบอัตโนมัติได้เองในช่วงเวลาประมาณเกือบหกโมงเช้า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาถูกฝึกมาตั้งแต่ยังเล็กจากคุณแม่ ซึ่งมักจะปลุกให้เขาลุกขึ้นมาช่วยตักบาตรทุกเช้า กระทั่งติดเป็นนิสัยถึงตอนโต ต่อให้นอนดึกมากแค่ไหน พอนาฬิกาเฉียดเข้าใกล้หกโมงเมื่อไร ร่างกายก็จะตื่นขึ้นเองและจะนอนหลับต่อไม่ลง
ทุกเช้า ก้องภพเลยชอบขี่มอเตอร์ไซต์ออกมาหาซื้ออะไรกินในตลาด จำพวกปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ โจ้ก ข้าวต้ม ร้านไหนอร่อยเขาก็จะแวะไปกินบ่อย ๆ เป็นขาประจำ บางวันถ้าตื่นเช้ามาก ๆ ก็จะซื้อกับข้าวใส่บาตรพระที่เดินบิณฑบาตผ่านมา
เขาคิดเสมอว่าอาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมันจะให้พลังงานต่อร่างกายไปตลอดทั้งวัน ดังนั้น เขาจึงต้องกินข้าวเช้าทุกครั้งไม่เคยขาด ด้วยถือเป็นการเติมพลังเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างเตรียมพร้อม
07:00
ก้องภพอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน
ก้องภพจะรีดเสื้อนักศึกษาใส่ตอนเช้า พร้อม ๆ กับเปิดดูรายการข่าวจากโทรทัศน์ไปด้วย คอยอัพเดทข่าวไล่ไปตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ หุ้น และข่าวต่างประเทศยิบย่อยต่าง ๆ บางครั้งถ้าข่าวในประเทศไม่น่าสนใจพอ ก็จะสลับข่าวเปลี่ยนไปช่อง CNN ซึ่งโชคดีที่หอของเขามีเคเบิ้ลต่อเข้าช่องนี้
ก้องภพจะจัดการทำกิจวัตรของตัวเองไปเอื่อย ๆ ไม่ได้เร่งรีบ เพราะมีเวลาเหลือมากพอ แต่เขาก็ยังเก็บสิ่งหนึ่งไว้ทำตอนสุดท้ายก่อนออกจากหอ นั่นคือ การผูกไทด์
ความจริงก้องภพไม่ชอบผูกไทด์สักเท่าไร และไม่ค่อยสนใจอะไรมากมายกับการแต่งชุดนักศึกษา เขาคิดว่าสมองของคนเราไม่ได้ตัดสินกันที่เครื่องแบบ แต่แน่นอน...เขารู้ว่าสมองเป็นคนละเรื่องกับความรับผิดชอบ นั่นจึงทำให้เขายอมทำตามกฎ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในฐานะนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์
ด้วยเหตุนี้ แม้จะอึดอัดใจ แต่เขาก็ยังผูกไทด์ให้เรียบร้อยทุกครั้งเมื่ออยู่ในเครื่องแบบนักศึกษา และรอคอยวันที่ตัวเองจะได้ถอดไทด์ออก และเปลี่ยนไปใส่เสื้อช็อปเร็ว ๆ
08 :00
ก้องภพถึงมหาลัย
วันนี้เขามีเรียนภาษาอังกฤษตอนแปดโมงครึ่ง ทำให้ต้องเดินมาเรียนทางฝั่งของเด็กภาษาแทนตึกคณะวิศวะ มีพี่ผู้หญิงจากต่างคณะมาถามชื่อกับเฟซบุ๊ค ซึ่งเขาก็บอกไปง่าย ๆ แต่ไม่ได้บอกความจริงตามหลังไปว่าตัวเองไม่ค่อยได้เล่นเฟซบุ๊คเท่าไร
ก้องภพเข้าหาโลกโซเชียลอยู่บ้าง ทั้งไลน์ ทวิตเตอร์ กูเกิ้ลพลัซ เขาสมัครไว้หมด แต่ก็มีไว้แค่เล่น ๆ เท่านั้น ถ้าหากมีธุระสำคัญจริง ๆ เขาถนัดการโทรติดต่อสื่อสารกันมากกว่า เพื่อป้องกันการผิดพลาด และยังรวดเร็วกว่าการต้องมารอคำตอบที่อีกฝ่ายจะพิมพ์กลับมา เพราะบางทีเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าสติกเกอร์ไลน์ที่เพื่อนชอบพิมพ์มาให้ มันหมายความว่ายังไง
เพื่อนเขาจึงไม่ค่อยชอบทักเขาผ่านโลกโซเชียลเท่าไร ซ้ำยังจัดให้ก้องภพอยู่ในกลุ่มคนประเภท...พวกอ่านแล้วไม่ยอมตอบ ...มีไอโฟนแล้วไม่ยอมใช้ให้คุ้ม ซึ่งเพื่อนก็แนะนำให้เขาเปลี่ยนไปใช้โนเกีย 3310 แทนแล้วเอาไอโฟนไปขายต่อซะ ซึ่งก้องภพก็คิดอยู่เหมือนกันว่าไม่แน่เขาอาจจะทำอย่างนั้น
08 : 30
ก้องภพเรียนวิชาแรก
ตำแหน่งด้านหลังห้อง กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายในเซค ซึ่งคาบข่าวมาบอกว่าช่วงบ่ายที่เรียนรวมคลาสใหญ่จะมีการเสนอชื่อให้เลือกประธานรุ่นวิศวะ
ไอ้เอ็มเพื่อนสนิทสะกิดให้เขาลงชื่อสมัคร ก้องภพรีบส่ายหัวปฏิเสธ ด้วยไม่อยากจะรับภาระให้เป็นปัญหากับชีวิต แค่อยากเรียนจบสี่ปีสบาย ๆ เหมือนคนอื่นทั่ว ๆ ไป แต่เพื่อนรอบข้างพากันยุ จนเขาต้องปราม พร้อมแถมคำขู่ทิ้งท้ายว่า...
...ใครเลือกเขา รอตามคิดบัญชีทีหลังได้เลย
10 : 25
ก้องภพเลิกคลาสรีบไปหาพี่รหัส
ภาควิชาเขาเฉลยพี่รหัสปีสองไปตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เขาประชุมเชียร์ เพื่อคอยช่วยเหลือน้อง และส่งต่อหนังสือของตัวเองให้น้องใช้เรียน แต่พี่รหัสของก้องภพยังคงไม่กลับมาจาก Work & Travel ที่อเมริกา หนังสือเรียนและชีทบางส่วน ก้องภพจึงต้องซื้อเพิ่มเอาเองไปล่วงหน้า
แต่วันนี้พี่รหัสโทรนัดให้เขามารับของ เขาจึงต้องรีบเดินกลับมายังใต้ตึกวิศวะ มองหาพี่รหัสตัวเองซึ่งนั่งรออยู่ตรงโต๊ะหินอ่อน แล้วก้องภพจึงได้เห็นหน้าตาของพี่รหัสปีสองเป็นครั้งแรก
'พี่เปิ้ล' สาวหมวย เปรี้ยวจี๊ด พ่วงด้วยตำแหน่งเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของปีสอง แต่มีบุคลิกสบาย ๆ เป็นกันเองขัดกับภาพลักษณ์ พอเขามาถึงเจ้าตัวก็ยกลังกระดาษลังใหญ่ เต็มไปด้วยกองชีทและหนังสือหลายเล่มจนเขานึกทึ่ง และพี่เปิ้ลคงพอเดาได้จากท่าทางของเขา เลยรีบร้องเบรกพลางอธิบายยกใหญ่
“โอยย ไม่ใช่ของพี่คนเดียวหรอกจ้า เป็นข