อิ่นคู่คือเครื่องรางของล้านนาภาคเหนือ คือรูปชายและหญิงกอดกันหมายถึงการไม่พรากจากรักกันจนวันตายเป็นเครื่องรางเมตตามหานิยมความรักสมหวังที่นิยมบูชามาตั้งแต่ยุคปู่ย่าตายาย ครั้งแรกครูบาเดชได้นำมาถักรวมกับตะกรุดแผ่นยันต์หนีบเพื่อหนุนพุทธคุณด้านเมตตาความรักให้เกลื้อหนุนกันตะกรุดแผ่นยันต์หนีบผู้เฒ่าผู้แก่ทางภาคเหนือยอมรับว่าเป็นสุดยอดวิชาด้านมหาเสน่ห์ผูกจิตผูกใจที่ตกทอดกันมาหลายร้อยปี คำว่าหนีบหมายถึงการบีบรัด กดทับ บังคับ ให้เกิดความลุ่มหลงในห้วงเสน่ห์หาของผู้กระทำ ครูบาเดชได้จัดสร้างตะกรุดยันต์หนีบนี้มาหลายครั้งท่านจะทำให้เฉพาะบุคคล มีประสบการณ์มาก ขั้นตอนการสร้างตะกรุดแผ่นยันต์หนีบครูบาเดชท่านจะหาฤกษ์อันเป็นมงคลโดยหาโอกาสเวลาอันเงียบสงบกลางดึกตั้งขันธ์บูชาครูทำพิธีจารตะกรุดหนีบนี้กลางป่าช้า ขณะครูบาบริกรรมคาถาลงเหล็กจารอักขระยันต์ตัวแรกลงแผ่นยันต์ลมที่พัดแรงในป่าช้าเสียงสัตว์น้อยใหญ่ที่ส่งเสียงร้องกลับเงียบลงสนิท ท่านจารยันต์ผูกยันต์ขึ้น 2ฝั่ง เรียกว่าหัวใจชายและหัวใจหญิงโดยหันหน้ายันต์ประกบชนกันอันหมายความว่าทุกสรรพสิ่งย่อมอยู่คู่กันดัง หยิน และ หยาง ชายย่อมคู่หญิงและหญิงต้องคู่ชาย หากเป็นคู่กันต้องไม่พรากไม่จาก ด้วยอำนาจแห่งยันต์ทั้งสองฟากฝั่งที่ประกบทับกัน เมื่อท่านจารแผ่นยันต์จนได้จำนวนที่ต้องการท่านจึงนำตะกรุดแผ่นยันต์หนีบทั้งหมดมาถักด้วยเชือกอาคมทำพิธีปลุกเสกบนกลางเชิงตะกอนป่าช้าอาถรรพณ์ปิดท้ายเป็นอันเสร็จพิธีกรรม ตะกรุดนี้จึงมีพลังอำนาจลึกลับแอบแฝง ผู้ไดมีไว้พกบูชาติดตัว จักมีอานุภาพเอกอนันต์ มัดจิตใจคน ผูกจิต ให้คิดถึง ไม่รู้คลาย เกิด เมตตา ความสิเน่หา มหาเสน่ห์ ความรักใคร่ ลุ่มหลง เป็นที่ต้องตาต้องใจต่อเพศตรงข้าม เพศเดียวกันผู้หลักผู้ใหญ่เจ้านายและเทพเทวดา เอ็นดู ตะกรุดนี้สามารถแช่ทำน้ำมนต์อาบหรือล้างหน้าทุกเช้าจะบังเกิดเมตตาโชคลาภ หรือใช้ทำน้ำมนต์พรมร้านค้าหรือสินค้าที่ต้องการขายก็จะค้าขายหรือขายของดี หากใช้เจาะจง ตามตำราว่าไว้ให้ทำวันจันทร์(วันมหาเสน่ห์) ให้ใช้ใบรัก หรือใบโพธิ์ กิ่งทิศตะวันออก โดยให้อธิฐานบอกกล่าวขอใบรักหรือใบโพธิ์กับเทพเทวดาที่คอยดูแลต้นไม้นั้นเสียก่อน แล้วกลั้นลมหายใจเด็ดโดยท่องคำว่า “นะโมตัสสะ3จบ”เด็ดใบไม้นั้นให้ขาดทีเดียวจากต้น แล้วจึงนำใบไม้ที่ได้ตัดขนาดให้พอดีขนาดสอดกลางยันต์ 2ใบ ให้เขียนชื่อนามสกุลเรา 1ใบและชื่อคนที่ต้องการ 1ใบ หลังเขียนแล้วเสร็จให้นำใบไม้ที่เขียนชื่อทั้ง2หันหน้าประกบหันแล้วสอดลงกลางแผ่นยันหนีบ เช่นแฟน จะรักกันยิ่งขึ้น หากไม่ได้อยู่ด้วยกันเขาจะคิดถึงเรานึกถึงคืนวันเก่าๆที่เคยอยู่ร่วมกันมา หรือเจ้านายและคนที่เราต้องการก็ได้ หากเป็นศัตรูคู่อริให้เขียนชื่อและนามสกุลเขาสอดเพียงใบเดียวเขาจะกลับมาเป็นมิตร หากหาใบไม้ไม่ได้ ให้ใช้รูปภาพถ่ายคนที่เราต้องการสอดก็ได้หรือจะใช้เรียกทรัพย์สินเงินทองให้เอาเงินสอดตรงกลางยันต์จะเป็นเหรียญหรือแบงก์ก็ได้เรียกเงินเรียกโชคดีนักแล เมื่อสอดใบไม้หรือรูปแล้วให้เสกด้วยคาถา ดังนี้
คาถาปลุกเสกแผ่นยันต์หนีบรัก โอมจิตติจิตตังจิตมนุสสานัง ปุริสาอิตถียัง โอมพรหมจิตตัง ปิยังมะมะ มามะมามา
ใช้หนีบผู้ชายท่อง โอมจิตตัง ปิยังมะมะ ชื่อ………… นามสกุล……………..จิตตัง ปิยังมะมะ
ใช้หนีบผู้หญิงท่อง โอมจิตตังอิตถีโย ชื่อ…………..นามสกุล…………….....จิตตัง ปิยังมะมะ
โอมนางกวักนางแกว่งแข๋น แกว่งเอาสาวมาเน้อนางเน้อ มาเร็วมารักกัน ร้อยหมื่นตื้อแสนวัน ก็ให้มาหากู เน้อนาง หากอยู่ฟากฟ้า ก็ให้มาหากู เน้อนางเน้อนาง หากอยู่ฟากภู ก็ให้มาหากู เน้อนางเน้อนาง หากอยู่หลายแม่น้ำขั้นแสนวัง ก็ให้แล่นมาหากูเถอะ เน้อนางเน้อนาง หากอยู่นอกฟ้าแลแดนแก้ว ก็ให้มาหากู เน้อนางเน้อนาง หากอยู่เวียงจันทน์ แลล้านช้าง ก็ให้มาหากูแท้เถอะ เน้อนางเน้อนาง หากอยู่ชวาแลเสียมราษฎร์ ก็ให้มาหากูแท้เถอะ เน้อนางเน้อนาง หากอยู่ปัจฉิม จันทบุรี แลขะแม ก็ให้มาหากูแท้เถอะ เน้อนางเน้อนาง หากอยู่ทิศสะหล้าน้ำแลหัวของ ก็ให้มาหากูแท้เถอะ เน้อนางเน้อนาง หากอยู่เมืองหงส์สา หลวงแลเมืองไทย แลเมืองพม่า ก็ให้มาหากูแท้เถอะ เน้อนางเน้อนาง โอม....พระสิลเนโห โอมปิยะ โอมปิยา มาอยู่หย้อง สองตราบข้างกู เป็นดั่งช้าง ๗ สาน ๗ แสน เป็นดั่งวิมาน ๙๗ ห้อง มาอยู่หย้องแห่งตัวกู แท้เถอะเน้อนางเน้อ โอม เอหิ เอหิ มามะ เอหิ เอหิ ปิยัง มามะ โอมจิตตะ จิตตัง ผูกจิต ผูกจัง ปิยังมะมะ อมหิหังสะ สวาหุม นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ ท่องเป่าที่ตะกรุดนี้ 7 จบ หากหมั่นท่องคาถานี้เสกจะดียิ่งนัก