Q: สิ่งที่เห็นชัดเจนเลยก็คือ Local Alike ไม่ได้มุ่งไปที่การทำกำไรเป็นหลัก อะไรเป็นสิ่งที่จะทำให้ตัวองค์กรสามารถดำเนินไปได้?
A: ปีนี้เราต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะว่าปีที่แล้วเราทำงานกับฝั่งชุมชนเยอะมาก ไม่ค่อยได้สนใจว่ารายได้จะมีเท่าไร แต่ปีนี้เราต้องมั่นใจว่ารายได้เราต้องมีพอที่จะเลี้ยงชีพได้ คือเราคิดว่าทำให้เราอยู่ได้ก็พอ ไม่ได้คิดถึงกำไรมาก สิ่งที่ทำต่อไปคือเราต้องทำให้เราเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวหรือคนที่สนใจเรื่องนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันเราก็ต้องขยายฐานชุมชนให้มากขึ้นด้วย ต้องเพิ่มความหลากหลาย ทำให้ทุกอย่างเป็นระบบ เราอยากให้สิ่งที่เราทำเป็นเหมือนสิ่งที่จุดประกายให้บริษัททัวร์อยากจะทำแบบที่เราทำบ้าง เพราะบริษัททัวร์ที่เราเจอ แต่ไม่ทุกที่นะ บริษัททัวร์ดีๆ ก็มี แต่ที่พวกผมไปเจอเองกับหมู่บ้านคือ ตอนนั้นทำงานกับชาวบ้านเสร็จแล้วตอนเย็นก็เล่นหมากเก็บ เล่นฟุตบอลกับน้องๆ สักพักมีบริษัททัวร์พานักท่องเที่ยวเข้ามา 5 คันรถ นั่ง 2 แถวเข้ามา ไกด์ก็พาเดินไปแล้วพูดอธิบายถึงหมู่บ้าน ถ่ายรูปแล้วไป ผมรู้สึกว่าทำไมเป็นแบบนี้ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนะ เขายังไม่ได้คุยกับชุมชนเลย ยังไม่ได้สนับสนุนสินค้าของชุมชนเลย เขามาแค่ฟังไกด์ ซึ่งไกด์คนนั้นก็ไม่รู้มาจากไหน เสร็จแล้ว 5 นาที ก็ออกไป แต่จริงๆ เขาสามารถทำได้มากกว่านั้น นั่นคือการพานักท่องเที่ยวมาสัมผัส มาอยู่กับชุมชน มาศึกษา มาเรียนรู้เขา มาดูจุดยืนของเขาว่าเป็นอย่างไร และสิ่งที่จะได้กลับไปมันมีค่ามากกว่านั้นเยอะเลย