ปีเตอร์ยืนมองหน้าจอกระจกใส ซึ่งแสดงข้อมูลของตึกทั้งหมด เขาก้มมองแผงควบคุมก่อนจะกดเลือกปุ่มปุ่มหนึ่ง บนหน้าจอแสดงภาพของชายคนหนึ่งในชุดสูทสีกรมท่านั่งก้มหน้าอยู่ในห้องนักโทษ ชายผู้นั้นนั่งนิ่งไม่ไหวติงเหมือนภาพถ่าย หากไม่เห็นนาฬิกาดิจิตอลตรงมุมจอเคลื่อนไหวก็คงไม่รู้ว่าเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ร่างนั้นไร้ชีวิตชีวา ปีเตอร์ผุดยิ้มมุมปากก่อนจะกดปิดหน้าจอแล้วเดินออกจากห้องไป มุ่งหน้าไปยังห้องนักโทษนั้น
“เฮ้ ว่าไงพี่ชาย”
เขาเดินเข้าไปหาผู้ที่นั่งอยู่ในห้อง เอ่ยเสียงทักทายแต่ไร้การตอบกลับ ร่างนั้นยังนิ่งเฉย ดวงตาก้มมองพื้นอย่างเหม่อลอย ปีเตอร์ถอนหายใจก่อนจะเดินไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้าชายผู้นั้น
“เฮ้ เคเลบ พูดอะไรกับฉันหน่อยสิ”
เขาประคองใบหน้านั้นไว้ในสองมือ เผยให้เขาเห็นดวงตาอันเศร้าสร้อยของชายหนุ่มผู้เคยอยู่ในกลุ่มผู้ทรงปัญญา ผู้ซึ่งเชื่ออย่างสุดหัวใจในระบบการแบ่งแยก ยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยกลุ่ม ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อช่วยกลุ่ม แต่สุดท้ายทุกอย่างพังทลาย กลุ่มของเขาคือคนผิด หัวหน้าของเขาคิดผิด และเขาก็คิดผิด
เคเลบตัดสินใจพลาด และตอนนี้เขาก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทั้งความเชื่อ ทั้งกลุ่ม ทั้งเพื่อน ทั้งครอบครัว โดยเฉพาะทริส ครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวของเขา
เขาแค่อยากจะช่วยทุกคนก็เท่านั้น
“มันจบแล้วปีเตอร์ ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว” เขาทำได้แค่เปล่งเสียงแหบแห้งออกจากลำคอ เหมือนตัวเขาตอนนี้ที่มันกลวงโบ๋
“ใครบอก นายยังเหลือฉันไง นี่นายไม่เห็นฉันหรอ หืม” ปีเตอร์ดึงแก้มของเพื่อนเขาจนยืด เคเลบนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย”
“เห็นไหม อย่างน้อยนายก็ยังรู้สึกเจ็บเป็น มันแสดงว่านายยังมีชีวิตอยู่นะ” เขายิ้มก่อนจะลุกขึ้นนั่งข้างตัวเคเลบ
“นายยังจำที่ฉันพูดตอนอยู่ในกลุ่มผู้รักสันติได้ไหม ก่อนที่ทริสจะซัดฉันหน้าแหกน่ะ” ปีเตอร์ถาม
“นายหมายถึงที่นายบอกว่า นายจะดูแลฉัน…”
“ถูกต้อง ฉันจะดูแลนายเอง และฉันก็หมายความตามนั้นจริงๆ”
ปีเตอร์หันมองเคเลบที่ยังคงก้มหน้า คิ้วพันขมวดครุ่นคิด ดูสับสนวุ่นวายใจ ปีเตอร์เผลอฉีกยิ้ม
“นายคิดมากทำไมเนี่ย มีคนดูแลตัวเองนี่ไม่ดีหรือไง”
“ไม่ใช่อย่างนั้น!” เคเลบหันมาโวย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉันแค่ไม่เข้าใจว่านายจะมาสนใจฉันทำไม เราอยู่คนละกลุ่ม เราไม่เคยรู้จักกัน ฉันไม่มีอะไรดี แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นแค่ไอ้งั่งที่หลงผิด”
“เราก็ได้รู้จักกันตอนอยู่กลุ่มผู้รักสันติไง”
“ฉันไม่เข้าใจ” เคเลบส่ายหัวอย่างงุนงง
ปีเตอร์ถอนหายใจ ก่อนจะคว้ามือเคเลบให้ลุกขึ้นยืนตาม
“ไปกันเถอะ” ปีเตอร์ออกแรงลาก เคเลบขืนตัว เขาไม่ยอมตามไป
“จะไปไหน”
“ไปข้างนอกกำแพงนั่นไง”
“ฉันไม่ไป!”
เคเลบพยายามแกะมือออก แต่ปีเตอร์กลับจับไว้แน่นขึ้น
“ฉันบอกนายแล้วว่าฉันจะดูแลนายเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่มีวันทิ้งนาย และฉันคุ้มครองนายได้แน่นอน”
เขาหันมายิ้มกว้างให้เคเลบก่อนจะประสานมือกับเขาแล้วก้าวเดินต่อ เคเลบก้มหน้าซ่อนความเขินอายไว้ก่อนจะตัดสินใจยอมเดินเคียงข้างกันและกัน
———————————————————————–
———————————————————————–
จบ
———————————————————————–
———————————————————————–
แต่ว่า ตอนปีเตอร์ดูแลเคเลบกับพ่อในภาคที่แล้ว พ่อตายนะ… //เคเลบบอกหาได้มั่นใจในตัวปีเตอร์ไม่
ไมล์กับอันเซลนอกจอนี่บ้าบอคอแตกมาก เป็นคู่หูบ้าบอ ฮือ หลง
สนิทกันเข้าไปปปปปปปปป
ปล.เรารอคนต่อเรือข่ะ เอื๊อกกกกก ตอนนี้สร้างเรือเองไม่ไหวแล้ว หมดพลัง ฮ่าๆๆๆๆๆ